"ท่าอากาศยานเชียงใหม่" พร้อม "เปิดเมือง" เที่ยวบินแรก ตปท. ถึง 5 พ.ย.นี้
ตระหนักถึงการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม จะปฏิบัติหน้าที่ในการคัดกรอง ผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ให้ดีที่สุด สร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
วันที่ 29 ตุลาคม 2564 นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่อากาศยานเชียงใหม่ นำสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ เยี่ยมชมความพร้อม การเตรียมรับการเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai ซึ่งมีกำหนดในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
โดยกระบวนการของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จะเริ่มจากการกำหนดหลุมจอดอากาศยาน ที่หลุมจอดหมายเลข 8 จากนั้นผู้โดยสารจะผ่านขั้นตอนต่างๆ 8 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจสอบอุณหภูมิ การจัดเตรียมตรวจเอกสารสาธารณสุข พิธีการตรวจคนเข้าเมือง การรับสัมภาระ พิธีการศุลกากร การนัดพบผู้ประกอบการนำเที่ยว และการรับผู้โดยสารขึ้นรถไปยังที่พัก
เบื้องต้นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ชั่วโมงละ 100 คน หรือในหนึ่งเที่ยวบินจะใช้เวลาคัดกรองผู้โดยสารเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง
ส่วนขั้นตอนของผู้โดยสารขาออก เบื้องต้นกำหนดไว้ 6 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร จากนั้นผู้ที่มีสิ่งของต้องสำแดงเพื่อขอรับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ไปติดต่อเคาน์เตอร์ศุลกากร ก่อนไปถึงขั้นตอนการเช็คอิน การโหลดกระเป๋าสัมภาระ การตรวจตามระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบิน การตรวจหนังสือเดินทางและการรอเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง
ซึ่งท่าอากาศยานเขียงใหม่ ได้ปรับปรุงพื้นที่ในกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เช่น เพิ่มเครื่อง X-ray เพิ่มเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง และจัดพื้นที่ในห้องโถงพักคอยให้เป็นไปตามมาตรการ Social Distancing
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้มีสายการบิน ที่จะทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศ คือ สายการบิน JEJU AIR ทำการบินในเส้นทาง อินชอน-เชียงใหม่-อินชอน ทุกวันศุกร์ โดยเริ่มบินเที่ยวแรกในวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เวลาขาเข้าคือ 22.30 น. และบินออกในเวลา 23.30 น.นอกจากนี้ยังมีสายการบินที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำการบินแล้ว
แต่ยังไม่ยืนยันกำหนดการที่จะเริ่มบินได้แก่ สายการบิน Air Asia X Berhad เส้นทางบิน กัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์ และสายการบิน Asiana เส้นทางบิน อินชอน-เชียงใหม่-อินชอน
ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป คาดว่ามีเที่ยวบินเฉลี่ยประมาณ 70-102 เที่ยวบินต่อวัน ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั้งภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพ หัวหิน ภาคตะวันออกได้แก่ อู่ตะเภา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี และขอนแก่น และภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี และหาดใหญ่
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมที่จะเป็นประตูต้อนรับผู้มาเยือน เพื่อพื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศชาติ ภายใต้การเดินทางและการท่องเที่ยววิถีใหม่
ขณะเดียวกันตระหนักถึงการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม และเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของชุมชน (Corporate Citizenship Airport) ดังนั้นจึงจะปฏิบัติหน้าที่ในการคัดกรอง ผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ให้ดีที่สุด สร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่
สราวุธ แสนวิชา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงใหม่