จับไต้ก๋ง หนีหมายจับ "ค้ามนุษย์" หลอกต่างด้าวลงเรือบังคับทำงานเยี่ยงทาส
ตำรวจ ปคม.จับ "ไต้ก๋ง" แสบ หนีหมายจับ "ค้ามนุษย์" หลังหลอกแรงงานต่างด้าวลงเรือบังคับทำงาน ทนทำงานครบ 1 ปี แต่โดนเบี้ยวค่าจ้าง กลับเข้าฝั่งได้ เข้าร้องเรียนหน่วยงานให้ช่วยเหลือก่อนขยายผลกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์
11 ก.ย.2564 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) จับกุม นายสมหวัง (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ไต้ก๋งเรือ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาค้ามนุษย์ หลอกแรงงานต่างด้าวลงเรือ บังคับทำงานเยี่ยงทาส
โดยเมื่อประมาณปี พ.ศ.2559 ในท้องที่ สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช มีชาวกัมพูชา ชื่อนายตอ กับพวกรวม 6 คน ถูกชาญชัย ซึ่งเป็นไต้ก๋งเรือชื่อบรรทุกน้ำมัน และ นายสมหวัง เจ้าของเรือ ร่วมกันบังคับขู่เข็ญหลอกลวงไปทำงานบนเรือโดยไม่สมัครใจและอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้โดยหลอกว่าจะให้ค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท
ต่อมานายตอ พร้อมกับพวก หลงเชื่อจึงยอมลงเรือไปทำงานแต่กลับไม่ได้รับค่าจ้าง โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะให้ค่าจ้างเมื่อทำงานครบ 1 ปี ในระหว่างอยู่บนเรือนั้นผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อญาติ หรือครอบครัวได้ และไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้เมื่อต้องการจะกลับ เมื่อทำงานครบ 1 ปี นายตอ พร้อมกับพวก ได้กลับเข้าฝั่งได้ไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
- เพจดังแฉ "บิ๊กตร." ขนเหล้าเถื่อนขึ้นเครื่องตำรวจเข้ากทม. คดีค้าง 3 ปีไม่คืบ
- ผบ.ตร. สั่ง จตช. สอบ "บิ๊กตร." ใช้เครื่องบินตร.ขนเหล้า เบียร์เถื่อน เข้ากทม.
- อย่าแชร์ ข่าวปลอม ว่อนเน็ต "ใบป่าช้าเหงา" รักษาโควิด-19
ต่อมา สภ.ขนอม ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับนายสมหวัง พร้อมกับพวกที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่การขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการกระทำผิดค้ามนุษย์ครั้งใหญ่ในเขตจังหวัดภาคใต้ตามมาอีกหลายคดี โดยนายสมหวัง ได้หลบหนี ซ่อนตัวอยู่หลายสถานที่แต่ไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินใดๆได้ เนื่องจากถูกอายัดทรัพย์สิน ไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆจึงยากแก่การติดตามจับกุม
ต่อมาชุดสืบสวน ชป.1 กก.1 บก.ปคม. ได้สืบทราบมาว่านายสมหวัง จะมาทำธุระส่วนตัวที่ห้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ มหาชัย จึงเดินทางไปซุ่มสังเกตการณ์และสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2564 เวลาประมาณ 12.00 น. ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนจะควบคุมตัวนำส่ง สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า นายสมหวัง ผู้ต้องหา มีหมายจับในข้อหาค้ามนุษย์ รวมทั้งสิ้น 5 หมายจับ ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 354/2559 ลง 26 ก.ย. 2559 ( คดีอาญาที่ 331/2559 สภ.ขนอม) โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันค้ามนุษย์(บังคับใช้แรงงาน) ”
2.หมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 359/2559 ลง 27ก.ย. 2559 ( คดีอาญาที่ 267/2559 สภ.ขนอม) กระทำผิดฐาน “ คนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดย ผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้น หรือช่วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และรับคนต่าง ด่าวที่ไม่มีใบอนุญาตทํางานเข้าทํางานโดยไม่ได้รับอนุญาต ”
3. บุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 460/2559 ลง 18 สิงหาคม 2559(คดีอาญาที่ 374/2559 สภ.เมืองนราธิวาส) ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ร่วมกันนําหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือของต้อง จํากัด หรือของต้องห้ามหรือที่ยังไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร ,ร่วมกันดําเนินการค้าน้ํามัน โดยตั้งเป็นสถานีบริการโดยไม่ขอจดทะเบียนตามกฎหมาย , ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับ จํานํา หรือรับไว้ด้วยประการใด ซื้อของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อ ห้าม ข้อจํากัด , ให้ที่พักอาศัยแก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันค้ามนุษย์
4. บุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 456/2559 ลง 18 สิงหาคม 2559(คดีอาญาที่ 377/2559 สภ.เมืองนราธิวาส) ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ร่วมกันนําหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือของต้อง จํากัด หรือของต้องห้ามหรือที่ยังไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร ,ร่วมกันดําเนินการค้าน้ํามัน โดยตั้งเป็นสถานีบริการโดยไม่ขอจดทะเบียนตามกฎหมาย , ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับ จํานํา หรือรับไว้ด้วยประการใด ซื้อของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อ ห้าม ข้อจํากัด , ให้ที่พักอาศัยแก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันค้ามนุษย์
5. บุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 458/2559 ลง 18 สิงหาคม 2559(คดีอาญาที่ 376/2559 สภ.เมืองนราธิวาส) ต้องหาว่ากระทําผิดฐาน “ร่วมกันนําหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือของต้อง จํากัด หรือของต้องห้ามหรือที่ยังไม่ได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร ,ร่วมกันดําเนินการค้าน้ํามัน โดยตั้งเป็นสถานีบริการโดยไม่ขอจดทะเบียนตามกฎหมาย , ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับ จํานํา หรือรับไว้ด้วยประการใด ซื้อของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อ ห้าม ข้อจํากัด , ให้ที่พักอาศัยแก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันค้ามนุษย์