ข่าว

"บิ๊กตู่" โต้ฝ่ายค้าน "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" สมองน้อยแต่มีประสบการณ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่" โต้ข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" หลังโดนซัด ยันพูดจากหัวใจ "สมองน้อย แต่มีประสบการณ์" แจงตำรวจสลายม็อบไม่มีการใช้กระสุนจริง ใครปลุกปั่นกำลังตรวจสอบอยู่

 

เมื่อเวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงการ"อภิปรายไม่ไว้วางใจ"ตอบข้อกล่าวหาของสมาชิกฝ่ายค้านประเด็น ที่ไร้ความรู้ความสามารถ  โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า แม้เป็นคนพูดน้อย สมองน้อย แต่เป็นคนมีประสบการณ์ 

 

พล.อ.ประยุทธ์  ชี้แจงว่า การบริหารงบประมาณที่มีการโอนงบมาไว้ที่งบกลางแก้ปัญหาโควิด-19 นั้น ไม่ได้เป็นความผิดปกติตามข้อกล่าวหาเลยสักข้อ ยอมรับมีหลายท่านอยากได้งบประมาณส่วนนี้ แต่ทำได้อย่างไร ต้องจัดทำเป็นงบประมาณ ไม่สามารถชี้นิ้วอะไรได้เลย เป็นการกลั่นกรองทุกประการ ไม่อยากให้มีปัญหาเหมือนก่อนหน้านั้นที่มีการทุจริต 

 

แจงงบกลาโหมสัดส่วนต่ำกว่าหลายประเทศ

นายกฯ ตอบโต้ข้อกล่าวการจัดทำงบประมาณกองทัพว่า  ชี้แจงหลายครั้งแล้ว การจัดทำงบฯมีหลักการพิจารณาสัดส่วนงบประมาณต่อวงเงินงบประมาณ ไม่ได้จัดทำงบสูงตามที่ฝ่ายค้านอภิปราย ระมัดระวังการใช้จ่ายงบมากที่สุด อะไรปรับได้ ก็ปรับได้เท่าที่จำเป็น 

 

" ท่านถามว่า ทหารมีไว้ทำไม มีไว้ไม่ได้รบ วันนี้ ทหารเข้าไปสนับสนุนช่วยเรื่องการป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19   เข้าไปช่วยภัยพิบัติ มีเงินเดือนเบี้ยเลี้ยงไม่ได้มากมายอะไร เราต้องมีกองกำลังชายแดน ดังนั้น หากเราเปรียบเทียบงบกลาโหมไทยกับแต่ละประเทศไม่ได้สูงกว่าประเทศอื่นๆ  " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯขอบคุณสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ รับคำแนะนำไปแก้ไข

"พรรคร่วม"ขนาดเล็ก ตัวแปรศึก"อภิปรายไม่ไว้วางใจ"

ผู้นำฝ่ายค้านเปิด อภิปรายไม่ไว้วางใจ ซัด นายกฯ บริหารประเทศผิดพลาดร้ายแรง

 

นายกฯ กล่าวว่า  ที่มีการอภิปรายว่าจัดซื้อรถถังแล้วเอาไปทิ้งน้ำ ข้อเท็จจริง รถถังที่ทิ้งน้ำเลี้ยงปะการังเป็นรถถัง 60-70 ปีซ่อมไม่ไหวแล้ว ดีกว่าไปจอดทิ้งไว้เฉยๆ  ไม่ใช่รถถังอายุ 10 ปี อายุมากที่สุดในกองทัพเหลืออยู่ 30-40 ปี จะเอาไปทิ้งทำไม   ถ้ามาคิดภายหลังว่า ทหารไม่ต้องมี  อาวุธไม่ต้องใช้ จะไปรบกับใคร วันหน้าท่านกรุณารับผิดชอบด้วยแล้วกัน ไม่ว่าปัญหาทะเลจีนใต้ รอบบ้านกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า 

 

เริ่มตอบโต้ข้อกล่าวหา "ผู้นำไม่มีความรู้ความสามารถ" 

 

"ท่านบอกผมไม่รู้กฎหมาย ผมไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด แต่ผมรู้ว่าบังคับใช้กฎหมายอย่างไร โดยใช้คนที่บังคับใช้กฎหมายตรงนั้น มอบมอบหมายให้ท่านต่างๆไปร่วมพิจารณาตัดสินใจ เช่น ในการแต่งตั้งตำรวจ มอบหมายให้ผบ.ตร.ไปร่วมพิจารณาขึ้นมา  ผมคิดว่าผมทำได้ดีกว่าสมัยก่อนมากเหมือนกัน ที่พูดมาทั้งหมด คือ ปัญหาที่ท่านเจอมาทั้งสิ้นไม่ได้แก้และผมเข้ามาแก้" นายกฯ กล่าว    

 

 

ปฏิเสธนโยบายซื้อใจประชาชน

 

นายกฯ ยังได้ชี้แจงกรณีกล่าวหาว่าออกมาตรการต่างๆให้คนรัก ได้เป็นนายกฯต่อ คงไม่ใช่ตรงนั้น จะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อเป็นกระบวนการประชาธิปไตย ไม่สามารถไปหลอกล่อใครได้ วันนี้ประชาชนเปิดหูเปิดตามากขึ้นแล้ว


ส่วนประเด็นว่า พบตัวเลขดำเนินคดีทุจริตมากขึ้นในรัฐบาลนี้  นายกฯ กล่าวว่า การดำเนินคดีทุจริต ทั้งข้าราชการระดับสูง ระดับล่าง ไล่ออก ปลดออก โดยท่านบอกมีคดีมาก อยากให้คิดแบบนี้ได้ไหม สมัยก่อนมีการทุจริตแต่ไม่ถูกดำเนินคดี  หนีคดี วันนี้มีไหมคิดอย่างนี้สิ ได้เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย   ถ้าช่วยกันจะไปได้หมด

  

ยืนยันตำรวจสลายม็อบไม่ใช่อาวุธจริง

 

นายกฯ  กล่าวว่า ตอนนี้บ้านเมืองเรามีความสงบสุข มีเสถียรภาพมั่นคงควรใช้โอกาสนี้ในการพัฒนา  ไม่ใช่สนับสนุนให้ก่อความวุ่นวาย ทุกท่านทราบดี  ทราบทั้งหมด เป็นใครทำให้บ้านเมืองเสียหาย  วันนี้กำลังตรวจสอบอยู่ไม่ได้ขู่ใครทั้งสิ้น เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมดำเนินการ

 

"มีการบอกว่าใช้อำนาจกับประชาชน เยาวชน เด็ก อยากถามว่าเป็นพื้นที่ที่ควรจะไปมั้ย  วันนี้มีกม.ทุกตัว ท่านบอกตำวจใช้อาวุธ ผมไม่เห็นตำรวจถืออาวุธจริงสักคน ท่านมองไม่ออกหรือ อาวุธจริงอาวุธปลอม  มีแต่ตำรวจถูกยิงทุกวัน ทำไมถึงมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง มันขัดแย้งความเป็นจริง ขัดแย้งกันในภาพฉะนั้นอย่าเลือกดูภาพในโซเชียล  อะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายใครจะนำออกมา แต่ผมยืนยันไม่ได้สั่งการใช้อาวุธจริงทั้งสิ้น ก็คอยดูต่อไป ใครจะทำให้เกิดขึ้น ด้วยแรงสนับสนุนจากใคร  นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องดูแลตลอดเวลา 

 

นายกฯ กล่าวตอนท้าย ถึงบรรดาข้อกล่าวหาต่างๆ  ไม่ทำอะไรที่ผิดสวดมนต์ทุกวัน และการที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส  หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวหา ตนเคารพในฐานะรุ่นพี่ แต่วันหน้าก็ระวัง วันหน้าอาจไม่เคารพ เพราะเป็นเด็กโตแล้ว คิดเป็น ท่านตำหนิน้องท่านมากเกินไปนิดนึง ไม่โกรธเคืองอยู่แล้ว จะให้ฝ่ายค้านมาชมคงเป็นไปไม่ได้

 

ฝากถึงประชาชนที่บ้านดูหน้าผม ฟังผม ผมพูดจากหัวใจผม พูดจากสมองที่ว่าน้อยเนี่ย  แต่ท่านอย่าลืมผมมีประสบการณ์ 6-7 ปีมาแล้ว ตรงนี้เป็นความแตกต่าง ที่น่าจะรู้มากกว่าท่าน" นายกฯ กล่าวพร้อม ตบอก แสดงถึงการพูดจากหัวใจ 

 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวตอนท้าย กรณีมีการอภิปรายจัดซื้อฉีดวัคซีนมิชอบ ยืนยันรัฐบาลทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์เป็นห่วงเป็นใยประชาชนด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ  เรื่องราคาวัคซีน การบริหาร รองนายกฯชี้แจงได้หมด ถ้าไม่ใช่ท่านก็ตรวจสอบ แต่ถ้าไปพูดข้างนอกก็ระวังด้วยแล้วกัน ไม่ได้ขู่ท่านจะมีปัญหา 

logoline