ข่าว

ด่วน "คลายล็อกดาวน์" นั่งกินอาหารในร้านได้แต่ต้องฉีดวัคซีน ร้านนวด ตัดผม เฮ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ด่วนไฟเขียว "คลายล็อกดาวน์" วางเงื่อนไขฉีดวัคซีนแล้วเดินห้าง นั่งกินในร้านอาหารได้ด้านร้านนวด- เสริมสวยเฮ ขยายสัดส่วนเพิ่มจำนวนผู้โดยสารรถสาธารณะ

เมื่อวันที่ 27ส.ค. 64  การประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 13/2564 ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ตามที่ ศบค.ชุดเล็กได้นำเสนอมาตรการคลายล็อกไว้ก่อนหน้านี้   โดยที่ประชุมเห็นชอบมาตรการคลายล็อกดาวน์ และลดเวลาเคอร์ฟิวจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ประกอบด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะกรรมการโรคติดต่อ จ่อคลาย"ล็อกดาวน์" เตรียมประเมินสิ้นเดือน ส.ค.นี้

"คลายล็อกดาวน์" ทั้งที่ยังตัดวงจรระบาดไม่ได้ หมอธีระ หวั่นยอดโควิดพุ่งสูง

อัปเดต "ฉีดวัคซีน" ล่าสุดไปถึงไหนแล้ว เปิดตัวเลขผู้ป่วยอาการหนัก

 

1.ร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือ เปิดแอร์อนุญาตนั่งรับประทานในร้านได้คิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่นั่งในร้าน

2.ร้านอาหารที่ไม่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือไม่เปิดแอร์ ให้นั่งได้ 75  เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนที่นั่งในร้าน ทั้งนี้ การเปิดให้ประชาชนนั่งรับประทานอาหารในร้าน โดยจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม

ที่ประชุมเห็นว่า เนื่องจากยังมีประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงต้องนำไปหารือในที่ประชุมใหญ่ศบค.ใหญ่อีกครั้ง

นอกจากนี้มาตรการคลายล็อกดาวน์ ยังครอบคลุมห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์หรือสถานประกอบการอื่น ที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติจนถึงเวลา 20.00 น.

 

โดยผู้ให้บริการจะต้องปฏิบัติได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว และจะต้องมีการตรวจคัดกรองด้วยชุด ATK  เป็นระยะและมีมาตรการเข้มผู้เข้าใช้บริการ

 

ขณะที่ร้านเสริมสวย หรือตัดผม ร้านนวด เปิดได้ตามปกติ แต่นวดได้เฉพาะฝ่าเท้า 

 

นอกจากนี้สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกาย ที่เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง ยกเว้นฟิตเนส และอาคารในสถานศึกษา เปิดได้ตามปกติ แต่ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณา

 

โดย ที่ประชุม ศปก.ศบค.ยังให้คงจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด แต่ใช้มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล Univerasal Prevention

 

พร้อมกันนี้เห็นชอบการรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เดิมกำหนดไม่เกิน 5 คน ขยายเป็น 25 คน

 

นอกจากนี้ จะเปิดบริการรถสาธารณะ โดยต้องจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 75 และคนขับรถจะต้องได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม และเปิดให้เดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม หรือผลตรวจโควิด-19 ด้วย

 

ขณะเดียวกัน ยังผ่อนคลายให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ สำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นเท่านั้น แต่ยังต้องขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดหากไม่มีความจำเป็น  และยังห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นยังคงอยู่ โดยมาตรการผ่อนคลายต่างๆ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ