ควรรู้ก่อนสาย "กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน" อันตรายกว่าที่คิด

จากกรณีหญิงอายุ 46 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านสินทรัพย์นคร กรุงเทพมหานคร หลังจากที่เข้ารับการ "ฉีดวัคซีนโควิด" ของ "แอสตร้าเซนเนก้า" เข็มแรก ก่อนจะมีอาการไข้ขึ้น ปวดศีรษะ หนาว เกร็งหมดสติก่อนเสียชีวิตในวันต่อมานั้น

อ่านข่าว - ออกแล้ว ผลชันสูตรหญิงวัย 46 เสียชีวิตปริศนาหลัง "ฉีดวัคซีนโควิด" "แอสตร้าเซนเนก้า"

ซึ่งจากกรณีการเสียชีวิตของหญิงอายุ 46 ปี ทำให้สังคมมีความกังวลถึงสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากหญิงรายดังกล่าวเพิ่งทำการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลพบว่าหญิงอายุ 46 ปี อาชีพแม่บ้าน มีโรคประจำตัวคือ ไมเกรน ซึ่งไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิต หลังจากที่เข้ารับการ "ฉีดวัคซีนโควิด" ของ "แอสตร้าเซนเนก้า" เข็มแรกมีดังนี้ 8 มิ.ย.2564 เวลา 11.45 น.ผู้ป่วยเข้ารับการ "ฉีดวัคซีนโควิด" ณ ศุูนย์ฉีดวิทยาลัยเทคนิคไทยบริหารธุรกิจ หลังฉีดวัคซีนมีการสังเกตอาการ 30 นาที ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใดต่อมาหลังกลับบ้าน ผู้ป่วยเริ่มมีอาการไข้ อ่อนเพลียเล็กน้อย เวลาประมาณ 22.00 น. ผู้ป่วยบ่นไม่ไหว มีอาการชักเกร็ง หมดสติ เพื่อนบ้านช่วยทำ CPR และตามรถพยาบาล เวลา 23.10 น. ทำการปั๊มหัวใจ กู้ชีพไม่สำเร็จ เสียชีวิต ซึ่งแพทย์ในที่เกิดเหตุลงความเห็นว่าเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมา เมื่อส่งศพมาทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ ซึ่งผลการชันสูตรศพปรากฏว่า ผู้ป่วยมีภาวะบวมน้ำที่ปอดทั้ง 2 ข้างอย่างรุนแรง พบเลือดออกในถุงหุ้มหัวใจปริมาณ 180 cc หัวใจห้องบนขวามีการฉีกขาด เป็นการฉีกขาดที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ห้องล่างซ้ายและมีเส้นเลือดหัวใจตีบทั้ง 3 เส้น คือ เส้นหน้าซ้าย เส้นขวาและ เส้นหลังซ้าย สรุปสาเหตุการตายของผู้ป่วยรายนี้ ผู้ป่วยมีเลือดออกที่ถุงหุ้มหัวใจจากหัวใจห้องบนขวาฉีกขาด จากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ว่าการตายของผู้ป่วยรายนี้เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ต่อไป

ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับโรค "กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน"  ระวังเสียชีวิตแบบไม่รู้ตัว

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค

• อ้วนหรือเป็นเบาหวาน
• สูบบุหรี่
• ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง
• ผู้ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
• ไม่ออกกำลังกาย

สัญญาณอันตราย

• เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก
• คลื่นไส้ เหงื่อออก 
• จุกแน่น ร้าวไปถึงคอหอย ไหล่ซ้าย ข้อศอก ท้อง แขนซ้าย กราม หรือคอด้านซ้าย

วิธีป้องกัน 1.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 2.ตรวจ ABI เพื่อดูเส้นเลือดที่ขา 3.ทดสอบสมรรถภาพหัวใจ 4.ตรวจ Aneurysm Screening เพื่อดูเส้นเลือดแดง 5.ควบคุมความดันโลหิต เบาหวานและน้ำหนัก 6.ตรวจ Carotid เพื่อดูเส้นเลือดใหญ่บริเวณคอ

ทั้งนี้ทั้งนั้นการฉีดวัคซีนโควิดย่อมมีผลข้างเคียงตามมาทั้งรุนแรงและไม่รุนแรงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อาการไม่พึงประสงค์ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า "อาการแพ้" คืออาการที่พบได้หลังฉีดวัคซีนทุกชนิด ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและหายเองได้

อ่านข่าว - ไขข้อสงสัย อาการไม่พึงประสงค์ หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบไหนควรพบแพทย์

อาการไม่พึงประสงค์ทั่วไป (อาการแพ้ไม่รุนแรง) เป็นสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันกำลังทำงานเพื่อซ้อมต่อสู้กับเชื้อโรค จะมีอาการ "อ่อนเพลีย มีไข้ หนาวสั่น ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน" ส่วนใหญ่จะหายเองได้ภายใน 1-3 วัน

อาการไม่พึงประสงค์ที่ควรพบแพทย์ (อาการแพ้รุนแรง) ไข้สูงกว่า 39 เซลเซียสเจ็บหน้าอก หัวใจเต้นเร็ว เต้นไม่สม่ำเสมอ เวียนหัว ชัก แขนชา อ่อนแรง มีลมพิษ ปากบวม หน้าบวม หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง
โอกาสเกิดน้อย แต่ถ้าเป็น ควรรีบไปหาหมอหรือโทร 1422 , 1669

ขอบคุณข้อมูล : โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนลหนองแขม