ข่าว

ฟังคำต่อคำ  "บังเชียร" ผู้ต้องหาคดีอำพรางศพสาวใหญ่ท่าศาลาหมกคู่น้ำ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจสอบปากคำ บังเชียร ผู้ต้องหาในคดีอำพรางศพสาวใหญ่หมกท่าศาลาหมกคู่น้ำ สารภาพสิ้น ปัดลงมือฆ่า 

     จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จับกุมตัว นายวิเชียร หรือ "บังเชียร" หรือ "บังโข้ย" อายุ 54 ปี อาชีพขับรถสองแถวสายนครศรีธรรมราช - ท่าศาลา หลังก่อเหตุฆาตกรรมอำพรางสาวใหญ่หมกคูน้ำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

     ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564 มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายวิเชียร หรือ บังเชียรให้การรับสารภาพว่า ตนเองและผู้ตายต่างมัครอบครัวแล้ว แต่แอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ตายเป็นประจำ ในวันก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้เข้าไปหาผู้ตายที่อยู่บ้านเช่าติดกันในช่วงที่ไม่ใครอยู่     

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ด่วน หิ้วทำแผนคนร้ายฆาตกรรมอำพรางสาวใหญ่หมกคูน้ำ 

 


 

     นายวิเชียร เล่าต่อไปว่า ขณะที่อยู่กันสองต่อสองในห้องกำลังจะเริ่มมีความสัมพันธ์กัน จู่ ๆ ผู้ตายเกิดอาการช็อค ก่อนจะสิ้นลมเสียชีวิต ตนเองตกใจมากทำอะไม่ถูกกลัวถูกจับได้ จึงวางแผนนำศพไปทิ้ง โดยเอาศพใส่ท้ายรถเก๋งเอาไปทิ้งยังจุดที่เจอศพ 

     นายวิเชียร สารภาพอีกว่า ก่อนจะโยนศพได้ปลดเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น  สร้อยข้อมือหนัก 2 บาท 1 เส้นและแหวนทองคำหนัก 2 สลึง 1 วงจากตัวผู้ตายกลับมากบดานเงียบที่ห้องเช่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

     "ก่อนจะนำแหวนทองคำหนัก 2 สลึงไปขายได้เงินมา13,000 บาท ใช้จ่ายไป 3,000 บาท เงินที่เหลือ 10,000 บาท พร้อมทองรูปพรรณที่เหลืออีก 4 บาท ใส่ถุงมาซ่อนในห้องเช่า และกำลังเตรียมวางแผนจะหลบหนีแต่มาถูกตำรวจบุกจับกุมได้เสียก่อน" นายวิเชียน สารภาพ 

     สำหรับประวัติ นายวิเชียร หรือ บังเชียร เมื่อ 8 ก.พ. 2558 เคยก่อคดีฆ่าชิงทรัพย์ทองรูปพรรณหนัก 3 บาท โดยผู้ตายเป็นแม่บ้านร้านอาหารหมูกระทะในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังได้นำศพไปโยนทิ้งริมถนนสายสนามบิน-อู่ตะเภา เขต อ.เมืองนครศรีธรรมราช 

     ซึ่งต่อมาถูกตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตามจับกุมได้เมื่อ 12 มีนาคม  2558 แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธและสู้คดีจนหลุดคดีมาได้ 

     ก่อนจะผันตัวเองมาทำอาชีพขับรถสองแถวสายนครศรีธรรมราช-ท่าศาลา เหมือนเดิม จนกระทั้งมาก่อเหตุซ้ำดังกล่าว 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ