นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หอบหลักฐานเกี่ยวกับคดี "หลงจู๊" พร้อมให้ปากคำตำรวจกองปราบ เผยทำหนังสือถึงผบ.ตร. ขอเปลี่ยนทีมสอบสวนกองปราบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 เมษายน 2564 ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล นำเอกสารหลักฐานใส่กระเป๋าเดินทางมามอบให้พนักงานสอบสวนใช้พิจารณาประกอบสำนวนคดีที่ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ "หลงจู๊" ในคดีจ้างวานฆ่าวินจักรยานยนต์รับจ้าง หลังได้รับหมายเรียกสอบปากคำในฐานะพยานของคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ด่วน บุกจับ "หลงจู๊สมชาย" เจ้าพ่อบ่อน คาคฤหาสน์หรู โยงคดีจ้างวานฆ่า
นายสันธนะ กล่าวว่า วันนี้จะพูดคดีนี้เป็นครั้งสุดท้าย แม้วันนี้จะเป็นวันโกหกสากล แต่ยืนยันหลักฐานที่นำมาวันนี้เป็นของจริง บุคคลที่เอ่ยถึงมีชื่อ มีตัวตนจริง ซึ่งเมื่อวานนี้ ตนได้ทำหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เพื่อให้เปลี่ยนคณะทำงานสืบสวนสอบสวนของคดีนี้ ซึ่งมีนายตำรวจยศ พล.ต.อ. , พล.ต.ต. และ พ.ต.อ.รวม 3 นาย เพราะคดีนี้ผิดเพี้ยนทั้งหมด อีกทั้ง พล.ต.อ.นายนี้ไม่อาจทำคดีได้ เพราะมีความใกล้ชิดกับเว็บพนันกาแล็กซี่ออนไลน์ มีที่ตั้งอยู่ชายแดนประเทศไทย
ส่วน พล.ต.ต.ตำแหน่งระดับผู้บังคับการ ช่วยราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลคดีนี้ และเป็นมือวางของ พล.ต.อ.นายนี้ นอกจากนี้ พล.ต.ต.นายนี้ มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ 2 คดีที่จบไปแล้ว ทำให้ไม่ไว้วางใจ ส่วน พ.ต.อ.มีตำแหน่งรองผู้บังคับการหน่วยงานหนึ่ง และเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ในลักษณะที่ทำให้สังคมเข้าใจว่าตนมีส่วนร่วมกระทำผิด หรือฟอกเงินในคดีนี้ ถามว่าหากตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนผิด ตนจะรอดมาได้หรือไม่
นายสันธนะ กล่าวอีกว่านอกจากนี้ตนยังทำหนังสือถึง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.ให้เรียกพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ที่ทำคดีเรื่องบ่อนการพนันมาร่วมสอบปากคำในคดีบ่อนการพนันด้วย เพราะคดีนี้มีเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน ไม่ใช่เพียง กก.2 บก.ป.ที่ทำคดีเรื่องจ้างงานฆ่าเท่านั้น หากเจ้าหน้าที่ต้องการมาสอบเพียงเรื่องประเด็นการจ้างวานฆ่า ตนไม่ยินยอมจะให้ปากคำ เพราะคดีนี้ มีผู้มีอำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่มีความคืบหน้า ตนก็ไม่อยากเอาตำแหน่งหน้าที่ส่วนตัวที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบทุจริตในภาครัฐของพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง มายุ่งเกี่ยวเท่าไหร่
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทราบมาว่าหลงจู๊ ได้บอกผ่านเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ที่ถูกขังในจุดคัดกรองโควิด-19 ของเรือนจำแห่งเดียวกันว่าตัวเองจ่ายขนาดนี้ ยังโดนหลอกได้ ตนจึงนำหลักฐานภาพถ่าย แชทการพูดคุยสนทนาคนที่รับเงิน 3 ล้านบาท เพื่อเจรจากับครอบครัววินจักรยานยนต์ผู้ตาย กับญาติ ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นมาเป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม หลังนายสันธนะ เข้าพบพนักงานสอบสวนได้เพียง 5 นาที ก็เดินออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยระบุว่าได้พบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.เพียงคนเดียว ไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ขอให้นำพนักงานสอบสวนคดีบ่อนการพนันของเสี่ยโป้ที่เชื่อมโยงกับคดีจ้างวานฆ่า มาร่วมสอบปากคำด้วย ตนจึงเดินทางกลับ และถือว่ามาพบแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง