ข่าว

เอาจริง จี้รื้อกฏหมาย "คอมมิวนิสต์" ปราบม็อบปลดแอก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศรีสุวรรณ" เอาจริง.! ย้ำถึงเวลาแล้ว ควรรื้อฟื้นกฎหมายป้องกัน "คอมมิวนิสต์" กลับมาปัดฝุ่น

 นายศรีสุวรรณ  จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีเฟซบุ๊กชื่อ เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH ประกาศเปิดตัว RT MOVEMENT ซึ่งใช้สัญลักษณ์ค้อนเคียว ในการขับเคลื่อน เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา

 

เอาจริง จี้รื้อกฏหมาย \"คอมมิวนิสต์\"  ปราบม็อบปลดแอก

 

 โดยมีเป้าหมายในการปลุกสำนึกทางชนชั้นของเหล่าแรงงานผู้ถูกกดขี่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงานออฟฟิศ แม่บ้าน รปภ. นอกเครื่องแบบ ชาวนา ข้าราชการ โดยอ้างว่าทุกคนล้วนเป็นแรงงานผู้ถูกกดขี่ เพื่อหวังให้ทุกคนร่วม RESTART THAILAND เพื่อสร้างสังคมที่ “คนเท่ากัน” นั้น

 

เอาจริง จี้รื้อกฏหมาย \"คอมมิวนิสต์\"  ปราบม็อบปลดแอก

 รูปภาพ “ค้อนเคียว” ที่เยาวชนปลดแอกนำมาใช้นั้น เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของลัทธิคอมมิวนิสต์ มักใช้เพื่อเป็นเครื่องหมายของลัทธฺคอมมิวนิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์ หรือรัฐคอมมิวนิสต์ ต่างๆ ทั่วโลก โดยปกติแล้วมักทำเป็นรูปค้อนและเคียวไขว้กัน ซึ่งเครื่องหมายทั้งสองอย่างนี้ คือสัญลักษณ์บุคคลในชนชั้นกรรมาชีพและชนชั้นชาวนา การนำสัญลักษณ์ทั้งสองอย่างมารวมกัน จึงหมายถึงเอกภาพของแรงงานในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม

 

 

  ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมในแบบคอมมิวนิสต์ และสัญลักษณ์ดังกล่าวนี้เป็นที่รู้จักกันดีจากการที่นำรูปดังกล่าวไปใช้ในธงชาติสหภาพโซเวียติ ควบคู่ไปกับรูปดาวแดง และยังถูกนำไปใช้ในธงและตราสัญลักษณ์ต่างๆ อีกจำนวนมาก และถึงแม้สหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้วเมื่อปี 1991 แต่ทว่าสัญลักษณ์ค้อนเคียว ก็ยังคงถูกนำไปใช้ในประเทศที่ใช้ระบอบคอมมิวนิสต์อยู่ เช่น ลาว เวียตนาม จีน และคิวบา ฯลฯ 

 

 

 

 

  ทั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดของลัทธิคอมมิวนิสต์ คือ การล้มล้างระบบศักดินา ระบบกษัตริย์ ระบบชนชั้น ฯลฯ  ซึ่งไม่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์และจารีตนิยมของการปกครองของไทย ในในยุคหนึ่งมีการทำสงครามเย็นกันขึ้นเพื่อเผยแพร่ลัทธิดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย จนหลายคนหลงผิดหนีเข้าป่าไปเป็นสาวกของลัทธิดังกล่าวมากมาย จนรัฐบาลสมัยนั้น ต้องออกกฎหมาย พรบ.ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2495 ขึ้นมา

 

เอาจริง จี้รื้อกฏหมาย \"คอมมิวนิสต์\"  ปราบม็อบปลดแอก

  เพื่อระงับ ยับยั้งการกระทำอันเข้าข่ายเชิดชูลัทธิอันตรายดังกล่าว เพราะลัทธินี้ถือได้ว่าเป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์หรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่เมื่อสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปจากสนามรบกลายเป็นสนามการค้า ทำให้รัฐบาลในสมัยนายชวน หลักภัย ได้ออก พรบ.ยกเลิก พรบ.ป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2495 พ.ศ.2543 ในที่สุด

  

 

    ดังนั้น “หากจะเป็นการป้องกันดีกว่าแก้ ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลควรพิจารณานำกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาปัดฝุ่นบังคับใช้อีกครั้ง เพื่อระงับยับยั้งกระบวนการทั้งใต้ดิน บนดิน ของกลุ่มปลดแอก กลุ่มแนวร่วม และกลุ่มต่างๆที่กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคมเหล่านั้นเสีย แต่หากยังไม่ถึงเวลา รัฐบาลต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดกว่าปัจจุบันในการจัดการบุคคลหรือกลุ่มที่ละเมิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดเสียที นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ