ข่าว

ตร.สรุปการชุมนุมทำตามหลักสากล ยันภาพยาเสพติดในรถตู้ตำรวจบุคคโล สอบแล้วไม่ใช่ของตำรวจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจสรุปสถานการณ์การชุมนุมวานนี้ ยืนยันทำตามหลักสากล พร้อมแจงภาพยาไอซ์ ในรถตู้ ของตำรวจสน. บุคคโล ไม่ใช่ของตำรวจ ส่วนกรณีการปะทะของผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม ยอมรับ กำลังไม่พอระงับเหตุ

18 พ.ย.63  เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย พลตำรยจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุม และการเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมือง นัดชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ 16.00 น. วันที่ 18 พ.ย.นี้

พลตำรวจตรี ยิ่งยศ ย้ำนโยบายตำรวจแห่งชาติว่าผู้ชุมนุมที่จะมาชุมนุมวันนี้ให้ปฎิบัติตามกฎหมาย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุม ตำรวจมีหน้าที่ระงับยังยั้งเหตุหากเกิดเหตุละเมิดกฎหมาย เตือนผู้ชุมนุมถ้าทำสงบไม่มีปัญหา หากทำลายทรัพย์สินตำรวจมีอำนาจยับยั้งสิ่งที่ขัดต่อกฎหมาย และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เพราะการเข้ามาทำลายสถานที่ราชการทำลายสิ่งกีดขวางมีความผิด หากมีการรุกล้ำเข้ามาทำลาย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลตำรวจในวันนี้ได้เตรียมความพร้อมสูงสุดในการดูแลผู้ป่วย และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม

ด้าน พลตำรวจตรี ปิยะ สรุปสถานการณ์การชุมนุมเมื่อวานนี้ มีกลุ่มผู้ชุมนุม 4 กลุ่ม มีการแจ้งชุมนุมตามกฎหมาย 3 กลุ่ม อีก 1 กลุ่มไม่ได้มีการแจ้งชุมนุมสาธารณะแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า การกระทำของตำรวจเมื่อวานที่ผ่านมา  มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงดูแลสั่งการตลอดห้วงเวลา  ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมายและหลักสากล โดยมาตราการที่ใช้ในการปฎิบัติเป็นมาตราการที่มีความจำเป็นเท่านั้น  และยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ใช้กระสุนยาง รวมถึงกระสุนจริงแต่อย่างใด สำหรับแผนรักษาความเรียบร้อยในวันนี้ ได้เตรียมกำลังตำรวจผลัดละ 6 กองร้อย ดูแลพื้นที่แยกราชประสงค์โดยรอบ

ขณะที่กรณีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม 2  ฝ่าย ที่แยกเกียกกาย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  ยอมรับว่าทราบเหตุแต่กำลังไม่เพียงพอที่จะนำเข้าควบคุมระงับเหตุ  อีกทั้งพื้นที่ที่เกิดเหตุ ไม่ได้อยู่ในระยะรัศมี จะต้องรับผิดชอบพื้นที่สำคัญก่อน ส่วนกำลังตำรวจท้องที่ก็มีไม่เพียงพอ 

ส่วนกรณีมีผู้เผยแพร่ภาพคลิป พร้อมบรรยายว่า พบยาไอซ์ ในรถตู้ของตำรวจ สน.บุคคโล  นั้น  ผู้บังคับบัญชา ได้ส่งตำรวจ 7 นาย ที่โดยสารมากับรถตู้คันดังกล่าว ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายทั้ง ทางปัสสาวะและในเลือดแล้วไม่พบ ว่ามีสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด  ส่วนยาเสพติดจะเป็นของใคร  ขณะนี้ตำรวจพื้นที่ สน.บางโพ รับเรื่องไปตรวจสอบตามขั้นตอนทางกฎหมาย รวมถึงกรณีทรัพย์สินส่วนตัวของตำรวจในรถตู้ อาทิ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน สูญหาย เจ้าของทรัพย์ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วเช่นกัน  
 

นอกจากนี้ยังมีกรณีผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมถูกยิงนั้นตำรวจ ชี้แจงว่า มีผู้ถูกยิงจริง เบื้องต้น 2 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาล  มาจากกลุ่มทั้ง 2 ฝ่ายทั้งฝั่งคณะราษฎร์ที่ถูกยิงที่ต้นขาซ้าย และอีกกลุ่มที่ถูกยิงบริเวณสะโพกขวา ส่วนปลอกกระสุนปืนที่ถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์  ยังไม่มีใครส่งมอบให้ตำรวจ ซึ่งหากประชาชนพบหลักฐานใดในพื้นที่ชุมนุมสามารถนำส่งให้เจ้าพนักงานท้องที่ได้ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลางได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว

ส่วนการตั้งข้อสังเกตเรื่องสีของน้ำที่ถูกฉีดใส่ผู้ชุมนุม มีทั้งสีน้ำเงินและสีม่วง  ตำรวจ เปิดเผยว่า ไม่มีความแตกต่างเรื่องสารเคมีที่ใช้ เพราะเป็นระบบอัตโนมัติที่ถูกรองรับตามมาตรฐานสากล แต่ใช้สีต่างกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ เพื่อระบุตัวบุคคลตามพื้นที่การชุมนุมและวันในการชุมนุม เพื่อจำแนกผู้ชุมนุมเท่านั้น  

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินทางราชการ จำนวน 34 คัน เช่น มีรถฉีดน้ำ(จีโน่) 4 คัน รถบรรทุกน้ำ 2 คัน รถความคุมผู้ต้องหา 2 คัน รถบัสโดยสาร ตชด. 3 คัน รถตู้ 17 คัน รถกระบะ 3 คัน และรถอเนกประสงค์ 3 คัน และอื่น ๆ ทั้งนี้ในส่วนรถจีโน่ที่เสียหายไปบางส่วน ทางตร.ยืนยันว่ามีรถที่สามารถปฏิบัติได้ตามปกติ

ขณะที่ พลตำรวจตรี จิรสันต์ กล่าวว่า แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักอาจทำให้การจราจรติดขัด แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางต้ังแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไปจนกว่า เสร็จสิ้นการชุมนุม โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ คือ ถนนราชดำ ถนนพระราม 1 ถนนเพลินจิต โดยแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนราชปรารภ ถนนเพชรบุรี ถนนพญาไท ถนนพระราม 4 ถนนอังรีดูนังต์ ถนนสารสิน ถนนสีลม ถนนสาทร ถนนวิทยุ ถนนสุขุมวิท ซอยต้นสน และ ถนนหลังสวน

ทั้งนี้​ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพื้นที่โดยรอบ ทางตำรวจได้เตรียมความพร้อมตามปกติ ในจำนวน 1-3 กองร้อยที่ประจำการในแต่ละวัน พร้อมมีการนำแผงเหล็ก​รั้วลวดหนาม​ และจุดคัดกรองมาติดตั้งไว้ที่ทางเข้าออก สำหรับคัดกรองบุคคล​ที่จะเข้ามาติดต่อภายในสำนักงานตำรวจ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ