ข่าว

จีน - ญี่ปุ่น สนใจ "ทราเวลบับเบิล" ส่งหนังสือทางการจับคู่เที่ยวยุค โควิด-19

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ. เตรียมแนวทางจับคู่ "ทราเวลบับเบิล" เที่ยวยุค โควิด-19 กับประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เริ่มในกลุ่มนักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ ครูนานาชาติ จีน - ญี่ปุ่น สนใจส่งหนังสืออย่างเป็นทางการมาให้พิจารณาแล้ว

25 มิถุนายน 2563 ที่ ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการประมวลสถานการณ์กระทรวงสาธารณสุข (MIU) กล่าวถึง ข้อเสนอการเดินทางเที่ยวยุค โควิด-19 รูปแบบ ทราเวลบับเบิล (Travel bubble) ว่า ประเทศไทยได้มีมาตรการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ทำให้ขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 31 วัน โดยมีการคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศ การเฝ้าระวังทั้งในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) การเฝ้าระวังในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน เช่น บุคลากรทางการแพทย์ เรือนจำ คนขับรถรับจ้าง / สาธารณะ ตรวจแล้วเกือบ 1 แสนราย รวมทั้งในกลุ่มแรงงานต่างด้าว เช่น สมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 1 หมื่นคน ไม่พบผู้ติดเชื้อ และจะขยายไปจังหวัดต่างๆ เป้าหมาย 24,000 ราย รวมทั้งการเฝ้าระวังในชุมชนและกลุ่มเสี่ยง โดยอาสาสมัครสาธารณสุข

 

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างระบบเศรษฐกิจ สังคม และประชาชนในประเทศปลอดภัย รัฐบาลได้มีนโยบายเตรียมจับคู่เดินทางระหว่างสองประเทศ (ทราเวลบับเบิล) ที่สามารถจัดการเรื่อง โควิด-19 ได้ดีเท่าๆ กัน โดยมีหลักการ คือ ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำเป็นคู่ๆ ไป เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กำหนดกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ ครูนานาชาติ และเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะต้องมีแผนการทำกิจกรรม หรือ ไทม์ไลน์ (Time line) ที่จะทำในประเทศไทยที่ชัดเจน

 

นายแพทย์ ศุภกิจ กล่าวว่า ได้กำหนดมาตรการในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่ประเทศต้นทาง ผู้เดินทางต้องอยู่ในประเทศกลุ่ม ทราเวลบับเบิล ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทาง ได้รับการตรวจคัดกรอง โควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่อง ทำประกันภัยครอบคลุมการตรวจรักษา โควิด-19 และได้รับใบอนุญาตเดินทาง / วีซ่า (Travel certificate / Visa) จากสถานทูตไทย

ขณะเดินทาง ต้องปฏิบัติตามแนวทางที่สายการบินกำหนด สวมหน้ากากตลอดเวลา ลด / เลี่ยงการสัมผัสระหว่างผู้โดยสารด้วยกัน และลูกเรือ - ผู้โดยสาร เมื่ออยู่บนเครื่องหากมีอาการไอ จาม มีน้ำมูก จะต้องแยกโซนที่นั่งจากผู้โดยสารอื่น และลูกเรือมีชุด PPE สำหรับเมื่อมาถึงประเทศไทย กำหนดสนามบินที่ กรุงเทพฯ หรือ สัตหีบ และแยกโซนไม่ปะปนกับผู้โดยสารภายในประเทศ มีคัดกรอง ตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ซึ่งจะต้องเพิ่มขีดความสามารถ / ความรวดเร็วของการตรวจ

 

รวมทั้งผู้เดินทางเข้าทุกคนต้องมี แอปพลิเคชัน (Application) DDCCare , หมอชนะ และใช้สมาร์ทโฟน ที่มีระบบ จีพีเอส (GPS) / บลูทูธ (Bluetooth) / 4จี (4G) เดินทางไปด้วยรถโรงแรมเท่านั้น ซึ่งต้องเป็นโรงแรม / ที่พัก ที่ระบุไว้ ซึ่งควรแยกชั้นเฉพาะ มีระบบส่งต่อกับโรงพยาบาลคู่สัญญาดูแลรักษา เมื่อผลตรวจเชื้อ โควิด-19 เป็นลบ จึงเดินทางไปทำกิจกรรมได้ ขณะอยู่ในประเทศไทย ต้องติดตามตัวได้ตลอด และสังเกตอาการตัวเองหากป่วยให้พบแพทย์ หรือโทรปรึกษาทางสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

นายแพทย์ ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีหลายประเทศแสดงความสนใจ ทราเวลบับเบิล และมี 2 ประเทศ ที่ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการและระบุรายละเอียดการดำเนินงาน คือ จีน และ ญี่ปุ่น กระทรวงสาธารณสุข จะนำข้อเสนอของประเทศต่างๆ มาพิจารณาและเจรจากันเป็นคู่ประเทศ เพื่อจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป

 

อ่านข่าว - เซ่นพิษ โควิด-19 ควอนตัส ปลด 6,000 ตำแหน่ง พักงาน 15,000 คน ไม่จ่ายค่าจ้าง

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ