ข่าว

ไล่ล่า "เสี่ยไฮ้" ไร้วี่แวว รอง ผบช.ภ.1 ไม่ขอก้าวล่วงสั่งฟ้องไม่ทันหลบหนี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร. ไล่ล่า "เสี่ยไฮ้" หลบหนีคดี แต่ยังไร้วี่แวว รอง ผบช.ภ.1 ไม่ขอก้าวล่วงสั่งฟ้องไม่ทัน ฝากถึงญาติและบุคคลใกล้ชิดผู้ต้องหา อย่าคิดช่วยเหลือมีความผิดตาม ก.ม.

19 มิถุนายน 2563 ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สุภธีร์ บุญครอง ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชุมเร่งรัดติดตามผลความคืบหน้าในการติดตามจับกุมตัว นายสันติ จึงทองดี หรือ เสี่ยไฮ้ ผู้ต้องหาหลบหนีตามคำสั่งของศาล จากคดีพบโครงกระดูกและกะโหลกเซลล์สาวขายปุ๋ยถูกห่อด้วยผ้าอยู่ในรถที่จมน้ำ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 บริเวณคลองชลประทาน หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านโปร่ง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี พื้นที่สถานีตำรวจภูธรหนองโดน

 

พลตำรวจตรี ธนายุตม์ เปิดเผยว่า คดีนี้กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 1 บูรณาการกำลังร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี สภ.หนองโดน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จัดชุดปฏิบัติการพิเศษเร่งไล่ล่าติดตามจับกุม เสี่ยไฮ้ โดยเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสระบุรีเข้าตรวจค้นเป้าหมาย ทั้งหมด 6 จุด เพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และตรวจสอบทุกช่องทาง ยังไม่พบว่าผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมกับฝากไปถึงญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ว่า ตำรวจจะไล่ล่าจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัวให้ได้

 

ขณะเดียวกัน ฝากถึงญาติและบุคคลใกล้ชิดของ เสี่ยไฮ้ อย่าคิดช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี เพราะคดีนี้มีอายุความ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย หากยืนยันความบริสุทธิ์ขอให้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม สู้กันในชั้นศาล ยืนยัน ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีเรื่องการส่งสำนวนล่าช้าเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนีนั้น ตามที่รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีความคลาดเคลื่อนของข้อมูล ส่วนตัวไม่ขอก้าวล่วงการทำงาน แต่ยืนยันว่าตำรวจทำงานภายใต้กรอบระยะเวลาตามขอบเขตของกฎหมาย ส่วนในเรื่องของรายละเอียด รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดจะเป็นผู้แถลงอีกครั้ง

 

อ่านข่าว - ซิว "บุญเติม สายเขียว" บิดเบือน โควิด-19 สารภาพรู้ไม่จริงแต่อยากเพิ่มยอดขาย (มีคลิป)

 

ทั้งนี้ พลตำรวจตรี ธนายุตม์ ย้ำ ไม่ว่าจะเป็นใคร หากทำผิดต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย การรู้จักกับบุคคลที่มีอิทธิพล หรือข้าราชการ ถือเป็นเรื่องปกติของประชาชน แต่หากทำผิดกฎหมายต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เป็นธรรม

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ