ข่าว

รู้หรือไม่ ! เจ้าของที่ดินไม่ได้ดูแล ปล่อยให้รกร้าง ไม่ทำประโยชน์ อาจหลุดเป็นของคนอื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เจ้าของที่ดินไม่ได้ดูแล ปล่อยให้รกร้าง ไม่ทำประโยชน์ อาจหลุดเป็นของคนอื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย

นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม กรรมการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ กรมที่ดิน เปิดเผยว่า การมีโฉนดที่ดินอยู่กับตัวแต่ไม่ได้ไปดูแล ปล่อยให้ที่ดินเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน อาจจะตกเป็นของผู้อื่นได้โดยง่าย ดังนั้น จึงควรหมั่นดูแลรักษาที่ดิน หรือสร้างประโยชน์ในที่ดินที่เป็นน้ำพักน้ำแรง หรือมรดกที่่ได้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กรณีโฉนดที่ดิน 
หากบุคคลอื่นได้แย่งการครอบครองที่ดินโดย “การครอบครองปรปักษ์” คือการที่บุคคลอื่นได้แย่งการครอบครองที่ดินที่เป็นโฉนดที่ดินของท่านมานานถึง 10 ปี โดยสงบ โดยเปิดเผยด้วยเจตนายึดถือเป็นเจ้าของเสียเอง หรือพูดภาษากฎหมายคือ  “อายุความได้สิทธิ” เป็นการที่บุคคลอื่นจะได้สิทธิ์หรือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของเราโดยการครอบครองปรปักษ์ตามมาตรา 1382 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหากจะต้องฟ้องเรียกคืนการครอบครองทรัพย์สินนั้นจะต้องฟ้องภายในก่อนครบ 10 ปี มิฉะนั้นจะเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินแน่นอน

 

การครอบครองปรปักษ์ 
จะต้องเป็นทรัพย์สินที่เจ้าของมีกรรมสิทธิ์ โดยเป็น “ที่ดิน” จะต้องมีโฉนดที่ดินเท่านั้น โดยผู้แย่งการครอบครองสามารถไปขอจดทะเบียนได้มาโดยการครอบครองได้ โดยใช้หลักฐานเอกสารแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย คำสั่งหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดที่แสดงว่าผู้ขอได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ บัตรประจำตัวประชาชน โฉนดที่ดินฉบับเจ้าของที่ดิน (ถ้ามี) ซึ่งถ้าผู้แย่งครอบครองไม่มีโฉนดที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติให้เจ้าพนักงานถือว่าโฉนดที่ดินนั้นสูญหาย และออกใบแทนโฉนดที่ดินแล้วจดทะเบียนได้มาโดยการครอบครองปรปักษ์ให้ ส่วนโฉนดใบเดิมของท่าน (ฉบับเจ้าของที่ดินเดิม) เป็นอันถูกยกเลิก

กรณีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3, น.ส.3 ก., น.ส. 3ข.) 
หากบุคคลอื่นเข้าแย่งการครอบครองที่ดินที่เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของท่าน และท่านไม่ฟ้องขับไล่ภายใน 1 ปีท่านจะเสียสิทธิการครอบครองที่ดินแก่บุคคลอื่นไป

การมีโฉนดที่ดินอยู่กับตัวแต่ไม่ได้ไปดูแล ปล่อยให้ที่ดินเป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน อาจจะตกเป็นของผู้อื่นได้โดยง่าย ดังนั้น ท่านจึงควรหมั่นดูแลรักษาที่ดิน หรือสร้างประโยชน์ในที่ดินของท่านที่เป็นน้ำพักน้ำแรง หรือมรดกที่ท่านได้มาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

                                             รู้หรือไม่ ! เจ้าของที่ดินไม่ได้ดูแล ปล่อยให้รกร้าง ไม่ทำประโยชน์ อาจหลุดเป็นของคนอื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ