ขอเตือนด้วยความหวังดี "ทนายอนันต์ชัย" ทนไม่ไหวออกมาโพสต์ถึงกรณี "จ่าจำปา" แจงชัดความกตัญญู กับ กฎหมาย อะไรสำคัญกว่ากัน ฉะแหลกพวกลิ่วล้อเอาใจนาย ไม่นึกถึงความจำเป็นและเป็นธรรม สอนกลับต้องใช้สมองคิด อย่าใช้อำนาจคิด
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2563 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณี จ่าจำปา จากคลิปดังเถียงผู้ว่าฯจนถูกสั่งขัง โดยระบุว่า ความกตัญญู กับ กฎหมาย อะไร สำคัญกว่ากัน ?
อ่านข่าว ภาพบีบหัวใจ เสธ พล.ร.5 พา "จ่าจำปา" กลับบ้านไปเยี่ยมแม่ป่วยติดเตียง
ในกรณีที่ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา สังกัด ร้อย.ลว.ไกล 5 นักรบหมวกแดง และยังเป็นทหารเหล่าแพทย์ โดนสั่งขัง 45 วัน และโดนงดบำเหน็จของปี 2563 ครึ่งปีหลัง เพราะไปเถียงกับผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ผมในฐานะนักกฎหมาย และทนายความ ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า
การบังคับใช้กฎหมายกรณีช่วงโควิด-19 ของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ โดยเคร่งครัดถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นการป้องกันการระบาดของโรค แต่ควรมีข้อยกเว้นกรณีนี้ เพราะจ่าพีรศักดิ์ฯ ได้แสดงหลักฐานและความจำเป็นแล้วว่าจะไปดูแลแม่ที่ป่วยเป็นอัมพาต พาไปหาหมอ แต่พวกท่านไม่ดู ไม่ฟังเหตุผล กลับนำภาพมาเผยแพร่อันเป็นการประจานเขาอีก ทำเพื่ออะไร หรือต้องการโชว์ผลงาน ?
ยังไม่พอต้นสังกัดลงโทษเขาสังขัง 45 วันอีก เป็นการซ้ำเติมเขาให้ได้รับความทุกข์ ความแค้น ความเจ็บใจ ผมไม่อยากให้เหมือนกรณีที่จ่าทหารท่านหนึ่งที่โคราชยิงผู้บังคับบัญชา และประชาชน จนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีก อยากขอเตือนด้วยความหวังดี..!
ไอ้พวกลิ่วล้อก็เหมือนกันเอาใจนายเสียจนเคยตัว ไม่คำนึงถึงความจำเป็น และเป็นธรรม ภูมิใจนักใช่ไหมที่เอาเขามาประจาน...!
อยากถามว่า ถ้าพ่อ แม่พวกคุณป่วยเป็นอัมพาต หรือจะป่วยจะเป็นจะตายในช่วงนี้ แล้วมีคนปฏิบัติกับท่านอย่างจ่าพีรศักดิ์ฯ พวกคุณจะรู้สึกอย่างไรไม่ทราบ...! ใช้สมองคิดน่ะครับ อย่าใช้อำนาจคิด ?
ในความเห็นของผม กรณีนี้ ความกตัญญู สำคัญกว่า กฎหมายที่บังคับใช้ ครับ เพราะผมใช้สมองของคนที่รักแม่คิด ไม่ใช่ใช้ความเป็นผู้มีอำนาจมาคิด ผมจึงเห็นว่า "ความกตัญญู สำคัญกว่า กฎหมายที่บังคับใช้"
ผมขอเป็นกำลังใจให้จ่าพีรศักดิ์ จำปา ขอคารวะในความดี ความกตัญญูของท่าน สู้ต่อไปครับท่านใครทำกับท่านอย่างไร เขาก็จะได้รับผลอย่างนั้นแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น... จากใจจริง
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
(ทนายกระดูกเหล็ก)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง