สรุปยอดนักโทษจลาจลแหกคุก 11 ราย จับแล้ว 10 ราย
ราชทัณฑ์สรุปเหตุจลาจลคุกบุรีรัมย์ นักโทษหนี 11 ราย ตามรวบแล้ว 10 ราย ตร.เร่งติดตามอีก 1 ราย เป็นนักโทษคดียาเสพติด ขณะที่พื้นที่ภายในเรือนจำอาคารถูกทุบ-เผา เหลือแค่โรงพยาบาล เผยอธิบดีราชทัณฑ์ เตรียมตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2563 - พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีนักโทษเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ อ้างกลัวโรคระบาดโควิด-10 ก่อเหตุจลาจล และหลบหนีออกนอกเรือนจำว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตั้งแต่ช่วงค่ำเมื่อวาน (29 มี.ค.)
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บินด่วน คุมเหตุนักโทษประท้วง หนีโควิด
จลาจลคุกบุรีรัมย์ไม่จบ นักโทษเผาเรือนนอนซ้ำ
จับได้แล้ว 7 นักโทษแหกคุกบุรีรัมย์
เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณเรือนจำมีความเสียหายจากการถูกทุบทำลายและเผาไฟทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่ของโรงพยาบาล เรือนจำจึงจำเป็นต้องย้ายผู้ต้องขัง 2,106 ราย ไปฝากไว้ที่เรือนจำใกล้เคียงในภาคอีสาน 18 แห่ง ส่วนผู้ต้องขังหลบหนีไป 11 ราย สามารถติดตามกลับมาได้แล้ว 10 ราย โดยส่วนใหญ่ทุบกำแพงห้องเยี่ยมญาติหลบหนีไป แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่หน้าเรือนจำ และอีกส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมกลับมาได้ คงเหลือนักโทษอีก 1 รายที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามหาตัว พร้อมทั้งจะเข้าสอบปากคำผู้ต้องขังที่ก่อเหตุ เพื่อดำเนินคดีด้วย ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะให้ระยะเวลาสอบปากคำนานเท่าไร โดยทางเรือนจำจะอำนวยความสะดวกให้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ต้องขังด้วยว่าจะให้ความร่วมมือในการสอบปากคำมากแค่ไหน ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วย
“เหตุจลาจลที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์เกิดจากผู้ต้องขังหยิบเรื่องที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโควิดในเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่เช่นนั้น อาจเป็นกุศโลบายของผู้ต้องขังบางคนที่อยากจะออกจากเรือนจำก็จะหาประเด็นมาปลุกระดม ซึ่งตัวการสำคัญของเรื่องนี้ก็มีโทษหนัก แต่ทางเรือนจำก็พยายามชี้แจงไปถึงผู้ต้องขังและญาติว่าเรามีระบบคัดกรองที่เข้มข้น ไม่มีโอกาสที่เชื้อไวรัสจะแพร่ระบาดในเรือนจำ หลังจากนี้เรือนจำอาจจะต้องทำการบ้านเพิ่ม” รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องขัง 1 รายที่ยังไม่สามารถติดตามตัวได้คือ ข.ช.ธันยพงศ์ สินพูน อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ) มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม้ได้รับใบอนุญาต ต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ