มาเลเซียกลายเป็นประเทศอาเซียนที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด จนมีกระแสเรียกร้องใช้มาตรการล็อกดาวน์
มาเลเซียคุมสถานการณ์ไวรัสโรคโควิด-19 ได้มาตลอด ยอดติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นไม่มากนับจากพบเคสแรกเมื่อ 25 มกราคม แต่จุดเปลี่ยนมาถึงเมื่อตัวเลขพุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังพบการแพร่เชื้อในมัสยิดชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่จัดงานชุมนุมทางศาสนาครั้งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.6 หมื่นคน ช่วง 27 ก.พ.-1 มี.ค.
ล่าสุด มาเลเซียแจ้งวันนี้ ยอดติดเชื้อเพิ่มเป็น 553 ราย โดยผู้ติดเชื้อใหม่ 125 รายนั้น เป็นคนที่ไปร่วมงานในมัสยิด 95 ราย
จากสถานการณ์ล่าสุด แพทย์กลุ่มหนึ่งได้ออกแถลงการณ์ร่วมถึง ดร.นอร์ ฮิชาม อธิบดีกรมสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบหลัก เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศก่อนสายเกินไป เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขได้สามารถระบุตัวและแยกกักโรค ลดการแพร่กระจายให้น้อยที่สุด
I proposed for #LockDownMalaysia. Our culture of working, social gathering, travelling requires more than just advices. We need to flatten the curve to control ASAP.
— Rafidah Hanim Mokhtar (@DrRafidahHanim) March 15, 2020
Malaysiakini - Gov't to meet tomorrow on introducing further measures to fight Covid-19 https://t.co/SjcbsuwT0Z
ชาวมาเลเซียถกเถียงกันในเรื่องนี้ภายใต้แฮชแทก #LockDownMalaysia จนกลายเป็นเทรนด์บนทวิตเตอร์มาเลเซีย มีทั้งที่เห็นด้วยเพราะมองว่า คำแนะนำไม่แรงพอจะหยุดกิจกรรมเสี่ยงได้ อีกฟากก็มองว่ายังไม่ถึงเวลา
This is what Im gonna do if #LockDownMalaysia is activated. pic.twitter.com/rrgvfcfEpM
— zafranmstf (@zafranmustafa) March 16, 2020
ด้าน ดร.Lee Boon Chye อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขมาเลเซีย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 และผู้ติดต่อสัมผัสโรค มีจำนวนมากเกินไป จนเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปที่กระทรวงสาธารณสุขจะสามารถติดตามและแยกกักได้ทั้งหมด ควรมุ่งไปที่ลดจำนวนติดเชื้อและป้องกันแพร่เพิ่ม ทุ่มทรัพยากรไปกับรักษาดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคให้อยู่ในสถานที่แยกกักพิเศษซึ่งอาจเป็นโรงแรม นอกจากนี้ ดร.ลียังเรียกร้องรัฐบาลให้ออกคำสั่งห้ามชุมนุมทุกรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมทางศาสนา สังคมและกีฬาเป็นเวลา 1 เดือน ปิดโรงเรียน สถานศึกษา มหาวิทยาลัย 1 เดือน
นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย ประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินมาตรการในขั้นต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง