หนุ่มวัย 44 ปี เสียชีวิตภายในบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ มีเลือดออกปากออกจมูก ส่วนแม่วัย 64 ปี ถึงกับร่ำไห้ เพราะลูกชายแม้จะสติไม่สมประกอบ หายตัวออกจากบ้านหลายครั้งก็กลับมาโดยปลอดภัย ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิตที่บ้านของตนเอง
วันที่ 1 มีนาคม 2563 เวลา 15.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวิเชียรบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านของตัวเอง ร.ต.อ.เทวินทร์ สุธรรมยะ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.วิเชียรบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ชุด วิเชียรบุรี ร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึง บ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นญาติที่พบศพแจ้งว่าในที่เกิดเหตุมีลอยเลือดแห้งติดกับพื้นที่ และมีเลือดไหลออกจากปากและจมูกของผู้เสียชีวิต หลังตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้เสียชีวิต ได้แก่ นายประกอบ เธอกิ่ง อายุ 44 ปี คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง สถานที่เกิดเหตุเป็นห้องพักไม่มีประตูอยู่ด้านหลังของบ้าน เป็นห้องนอนของผู้เสียชีวิต
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสถานที่เกิดเหตุ นางแดง พันสมตน อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นมารดาของผู้เสียชีวิต ถึงกับร่ำไห้ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นคนสติไม่สมประกอบและเคยหายตัวออกจากบ้านไปหลายครั้ง แต่ก็สามารถตามตัวกลับมาได้ทุกครั้งบางครั้งแม้จะนานเป็นเดือน และเคยตามตัวได้ไกลที่สุด คือ จังหวัดสระบุรี ไม่เคนติดว่าจะต้องมาเสียชีวิตง่ายดายอย่างนี้ หลัง ร้อยเวรได้อธิบายรายละเอียดของจุดเกิดเหตุและลักษณะการเกิดเหตุให้ นางแดงได้ทราบ ทางญาติก็ไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต ร้อยเวร จึงได้มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ชุดวิเชียรบุรี ไปชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี ก่อนที่ญาติจะนำมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
นายฉลาม หุนทนทาน อายุ 54 ปี เพื่อนบ้านที่พบศพเป็นคนแรก เล่าว่า พบกับนายประกอบ ผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา ประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 โดย นางแดง ผู้เป็นมารดาของผู้เสียชีวิตยังซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้ผู้เสียชีวิตรับประทาน หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกัน พอตกเย็นของวันที่ 1 มีนาคม 2563 ตนได้เดินไปเรียกนายประกอบ ผู้เสียชีวิต เพราะเห็นว่า นอนนานผิดปกติ พบว่า นายประกอบได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งญาติให้ทราบและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ดังกล่าว
ภาพ/ข่าว ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เพชรบูรณ์ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง