ข่าว

เก็บตกประเด็นเด่นพรีเมียร์ลีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ ทำให้คอลูกหนังต้องติดตามความเคลื่อนไหวชนิดพลาดไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว

 

 


สิงห์บุกแบ่งแต้มเลสเตอร์

 

 

เก็บตกประเด็นเด่นพรีเมียร์ลีก

 

 

 

 

เริ่มด้วยเกมที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ซึ่งประเดิมบู๊เป็นคู่แรกของคืนวันเสาร์ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี ผลัดกันยิง ผลัดกันนำกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ก่อนที่บทสรุปจะลงเอยด้วยการแบ่งกันไปทีมละแต้มที่สกอร์ 2-2

 

อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ปราการหลังสิงห์บลูส์ กลายเป็นพระเอกของงานเมื่อเหมาคนเดียว 2 ประตู จากการเติมขึ้นมาเล่นลูกเซตพีช

 

ลูกแรกโขกให้ทีมขึ้นนำก่อนหลังจากครึ่งหลังผ่านมาได้นาทีเดียว แม้จากนั้น ฮาร์วีย์ บาร์นส และเบน ชิลเวลล์ สองดาวเตะตัวกลั่นของเจ้าถิ่นจะมารัวคนละตุงในเวลาห่างกันแค่ 10 นาที (นาที 54 และนาที 64) ให้เจ้าบ้านพลิกกลับขึ้นมานำ 2-1

 

แต่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าของเสื้อหมายเลข 2 ก็อาศัยส่วนสูงกว่า 190 ซม. เติมขึ้นมาโหม่งประตูที่สองของตัวเองและช่วยให้ทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด ควักผลเสมอกลับออกไปได้ในที่สุด แถมขณะเดียวกัน รูดิเกอร์ ยังเป็นแนวรับสิงห์บลูส์ในรอบ 6 ปี ที่สามารถเหมาสองประตูให้ทีมต่อจาก จอห์น เทอร์รี อดีตกองหลังคนเก่งที่เคยกดสองตุงใส่ฟูแลม เมื่อในอดีต

 

ผลเสมอของคู่นี้ทำให้การขับเคี่ยวพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังคงเข้มข้นทีเดียวจากการที่ทั้ง เลสเตอร์, เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และทอตแนม ฮอตสเปอร์ ยังคงมีแต้มไล่บี้กันไม่ห่าง

 

 

 

นัดประเดิมสนาม “แฟร์นันด์ส”

 

หลังสร้างความฮือฮามาอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะหน้าหนาวที่เพิ่งปิดตัวลงไป ในที่สุดห้องเครื่องเจ้าของค่าตัว 47 ล้านปอนด์ ก็ได้รับโอกาสประเดิมสนามในเกมแรกทันที หลังจากเปิดตัวกับสโมสรไปได้ไม่นาน

 

 

เก็บตกประเด็นเด่นพรีเมียร์ลีก

 

 

บรูโน แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส ย้ายจากสปอร์ติง ลิสบอน มาร่วมทัพแมนฯ ยูไนเต็ด และเปิดตัวกับทีมไปเมื่อวันพฤหัสบดี จากนั้นให้หลังอีก 48 ชั่วโมง โอเล กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมปีศาจแดงก็ให้โอกาสห้องเครื่องเจ้าของเสื้อหมายเลข 18 ลงบู๊เป็น 11 คนแรกแบบไม่ลังเลแถมยังให้โอกาสได้ลงเล่นจนครบ 90 นาที อีกด้วย

 

แม้ผลลัพธ์ในเกมนัดล่าสุดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน อาจไม่ถูกอกถูกใจกองเชียร์ “เรด เดวิลส์” เท่าใดนัก แต่สิ่งที่พอจะทำให้เหล่ากองเชียร์ยูไนเต็ด รู้สึกมีประกายความหวังขึ้นมาหนีไม่พ้นการได้เห็นฝีเท้าและการบัญชาเกมในแดนกลางของมิดฟิลด์ป้ายแดงของพวกเขา

 

สถิติจากออปตา เว็บไซต์เก็บข้อมูลลูกหนังเจ้าดัง ระบุว่า แฟร์นันด์ส เป็นดาวเตะที่มีโอกาสยิงประตูของฝั่งปีศาจแดงมากที่สุด 5 ครั้ง ยิงเข้ากรอบให้ทีมมากที่สุด 3 ครั้ง และผ่านบอลไปทั้งหมด 88 เที่ยว ซึ่งเป็นจำนวนการผ่านบอลมากกว่าดาวเตะทุกรายในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแมทช์นี้

 

อย่างไรก็ตามในแง่ผลลัพธ์ของสกอร์ที่จบลงแบบจืดชืด 0-0 ทำให้ถึงตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งในเกมพรีเมียร์ลีก 3 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไม่สามารถกะซวกตาข่ายคู่แข่งนานสามเกมติดเกิดขึ้นเมื่อตุลาคมปี 2016 ขณะเดียวกันนี่ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีนาคม 2014 ที่ยูไนเต็ดไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้ยามลงเล่นในรังเหย้าของตัวเอง 2 นัดติด จากผลงานพ่าย เบิร์นลีย์ 0-2 และเกมล่าสุดที่เจ๊าทีมหมาป่า

 

 

 

 

 

สถิติแกร่งหงส์แดง

 

เก็บตกประเด็นเด่นพรีเมียร์ลีก

 

 

หลังจบเกมที่แอนฟิลด์เที่ยวล่าสุดในชัยชนะเหนือผู้มาเยือน เซาแธมป์ตัน 4-0

 

เกมนี้เจ้าถิ่นมารัวสี่ประตูได้ในช่วงครึ่งหลังทั้งหมดจากผลงานของ อเล็กซ์ ออกเลด แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เหมาคนเดียวสองประตู

 

ส่งผลให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของเจอร์เกน คลอปป์ รั้งตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นจากผลงาน 25 เกม ชนะ 24 นัด เสมอ 1 เก็บไป 73 คะแนน โดยนอกจากเดินหน้าโกยแต้มอย่างต่อเนื่องแล้ว หงส์แดง ยังสร้างสถิติใหม่เมื่อไร้พ่ายที่แอนฟิลด์ในเกมลีกนาน 53 นัดติดต่อกัน เป็นการชนะ 43 นัด และเสมอ 10 เกม ยิงไปทั้งหมด 139 ประตู เสีย 36 ประตู

 

และหากนับรวมทั้งหมด ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 42 เข้าไปแล้ว สูงสุดลำดับ 2 เป็นรองเพียง อาร์เซนอล ชุดดิ อินวิซิเบิล ฤดูกาล 2003-04 ที่ไร้พ่ายยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 49 นัด

 

ขณะเดียวกันลูกทีมของคลอปป์ ยังขึ้นไปทาบสถิติชนะเกมเหย้าในลีกติดต่อกันมากที่สุด 20 นัด ของแมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2011-12

 

หากคิดเป็นจำนวนแต้ม ลิเวอร์พูล เก็บไปถึง 100 คะแนน จากคะแนนเต็มทั้งหมด 102 คะแนน โดยเก็บชัยชนะไปถึง 33 นัด จากทั้งหมด 34 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก โดยเกมเดียวที่พวกเขาพลาดเก็บสามแต้มก็คือนัดที่เสมอแมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว

 

นอกจากนี้ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่เหมาคนเดียวสองประตูยังทำให้ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ขึ้นแท่นเป็นดาวยิงหงส์แดงที่ทะลวงตาข่ายได้มากที่สุดยามเล่นที่แอนฟิลด์ในซีซั่นนี้ 12 ประตู และถ้านับตั้งแต่ตอนย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2017 จนถึงเวลานี้มีเพียง ลิโอเนล เมสซี สตาร์คนเก่งของบาร์เซโลนา คนเดียวเท่านั้นที่เป็นนักเตะที่ยิงประตูในรังเหย้าให้สโมสรนับเฉพาะ 5 ลีกใหญ่ยุโรป ได้มากที่สุด 51 ประตู ส่วน ซาลาห์ ยิงในแอนฟิลด์ไปทั้งสิ้น 44 ลูกด้วยกัน

 

จบจากสุดสัปดาห์นี้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะถึงช่วงพักเบรกหนีหนาวที่ประกาศใช้เป็นครั้งแรก โดยในช่วงนัดที่ 26 จะมีการแข่งขัน 5 คู่ ในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ ส่วนอีก 5 คู่ที่เหลือจะแข่งขันในวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ เท่ากับว่าทุกทีมจะมีโอกาสพักเบรกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นเวลา 2 สัปดาห์

 

 

ภาพ AFP

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ