ข่าว

โลกโล่งอกสหรัฐ-อิหร่านเลี่ยงสงคราม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สหรัฐและอิหร่านต่างยอมถอยหนึ่งก้าว เลี่ยงถลำเข้าสู่สงคราม หลังจากปฏิบัติการของอิหร่านที่โจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักไร้ผู้เสียชีวิต ส่วนทรัมป์เลือกคว่ำบาตรแทนบู๊

 

หลังจากทั่วโลกจับจ้องท่าทีของสหรัฐอเมริกาต่อปฏิบัติการล้างแค้นจากอิหร่านเมื่อวาน ( 8 ม.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็แถลงด้วยน้ำเสียงที่ลดความแข็งกร้าวลงอย่างเห็นได้ชัด ว่าไม่มีชาวอเมริกันได้รับอันตรายจากการโจมตี และดูเหมือนว่าอิหร่านจะยอมหยุดแล้ว

 

 

สหรัฐจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแทน จนกว่าอิหร่านจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และบอกด้วยว่าแม้สหรัฐมีกองทัพและยุทโธปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ต้องการใช้ เพราะความแข็งแกร่งทางทหารและเศรษฐกิจของสหรัฐ เป็นสิ่งยับยั้งได้ดีที่สุด

 

 

ข่าวเกี่ยวข้อง 


   ทรัมป์แถลงครั้งแรก มะกันไร้เจ็บ-เตรียมแซงชันอิหร่านรอบใหม่
 

 

ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐมีขึ้นหลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธ 22 ลูกโจมตีฐานทัพเอน อัล-อาซาดในจังหวัดอันบาร์ และฐานทัพอีกแห่งในเมืองเออร์บิลของอิรักเพื่อตอบโต้ที่สหรัฐใช้โดรนสังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่าน  มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 16 ลูก อย่างน้อย 11 ลูกตกใส่ฐานทัพเอล อัล-อาซาด และอีกลูกตกในเมืองเออร์บิล และเกิดความเสียหายเล็กน้อย เช่น ค่ายพัก แท็กซี่เวย์ ลานจอด เฮลิคอปเตอร์ 

 

 

แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ และยุโรป ให้ความเห็นว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่ล่าสุด แสดงให้เห็นความเสียหายเพียงเล็กน้อยที่ฐานทัพทั้งสองแห่ง บ่งชี้ว่า อิหร่านพยายามหลีกเลี่ยงการนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบ ขีปนาวุธหลายลูกไม่ระเบิดหรือพลาดเป้า ซากขีปนาวุธบางลูกตกไกลจากฐานทัพเออร์บิล นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอาเดล อับดุล มาห์ดี ของอิรัก เปิดเผยว่า อิหร่านแจ้งเขาเรื่องการโจมตี และสื่อสหรัฐรายงานว่า เขาได้แจ้งเรื่องนี้ต่อไปยังสหรัฐ แต่โฆษกกองทัพอิหร่าน ปฏิเสธการรายงานของสื่อต่างชาติที่บ่งชี้เป็นนัยว่ามีการร่วมมือกันระหว่างอิหร่านและสหรัฐเพื่ออพยพทหารออกจากฐานทัพก่อนการโจมตี
 

 


จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่อิหร่านต่อถ้อยแถลงของทรัมป์ แต่สำนักข่าว ฟาร์ส ของอิหร่าน บอกว่า การแถลงของทรัมป์เป็นการผ่อนปรนท่าทีครั้งใหญ่ และก่อนหน้านี้ ยาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า  สิ่งที่อิหร่านทำลงไปถือว่าจบแล้ว และสมน้ำสมเนื้อ โดยถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง 

 

ขณะเดียวกันไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยกับสื่อว่า สหรัฐได้รับข่าวกรองที่น่ายินดีว่า อิหร่านแจ้งไปยังกองกำลังติดอาวุธต่างๆในภูมิภาคที่เป็นพันธมิตรว่า อย่าเคลื่อนไหวโจมตีเป้าหมายหรือพลเรือนของสหรัฐ แต่พลเอก มาร์ก มิลลีย์  ประธานเสนาธิการทหารร่วม บอกว่า เขาและหลายคนในกองทัพคาดว่า กองกำลังชีอะห์ที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน จะโจมตีสหรัฐและพันธมิตรในอิรักและซีเรีย 

 

ขณะที่ม็อกตาดา อัล-ซาดร์ ผู้นำทางศาสนาของชาวชีอะห์ในอิรัก ทวีตแถลงการณ์ว่าวิกฤตจบแล้วโดยเฉพาะหลังคำแถลงของทรัมป์ และท่าทีของอิหร่าน เขายังเรียกร้องให้กองกำลังติดอาวุธของเขาอดกลั้น อย่าใช้ปฏิบัติการทางทหาร และหยุดใช้ความรุนแรง แม้ก่อนหน้านี้เขามีคำสั่งเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ให้กองทัพเมห์ดี ที่เคยยุบไปแล้วกลับมารวมตัวครั้งใหม่เพื่อปกป้องอิรัก หลังจากสหรัฐปฏิบัติการปลิดชีพนายพลกอเซม สุไลมานีของอิหร่าน ที่สนามบินในกรุงแบกแดดของอิรักในวันเดียวกัน

 

อย่างไรก็ดี แม้ทรัมป์คลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดกับอิหร่านลงได้ แต่เขากำลังเผชิญคำถามจากสภาคองเกรสเกี่ยวกับหลักฐานที่ใช้อ้างเหตุผลในการปลิดชีพนายพลอิหร่าน และสภาผู้แทนราษฎรจะเดินหน้าลงมติในวันนี้ ( 9 ม.ค. ) เรื่องยับยั้งทรัมป์ใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่านจนกว่าจะได้รับมติเห็นชอบจากสภา  ซึ่งจะมีการโต้เถียงอย่างหนักเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของทรัมป์ต่ออิหร่าน และบทบาทของสภาในการจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีในการทำสงคราม 

 

เครดิต NationTV 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ