หลังจบเกมที่เอาชนะทีมดาบคู่ "ลิเวอร์พูล" ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาให้ลีกลูกหนังอังกฤษ
37 เกม 32 ชัยชนะ 89 ประตู และเก็บไป 101 คะแนน ในรอบ 1 ปี นี่คือสถิติอันไร้เทียมทานซึ่งลูกทีมเจอร์เกน คลอปป์ ได้บันทึกไว้
พวกเขาลงเล่น 37 เกม โดยไม่แพ้ทีมใด ทำให้หงส์แดง กลายเป็นทีมที่ 3 ในพรีเมียร์ลีกที่ทำสถิติไร้พ่ายยาวนานที่สุดในรอบ 1 ปี ต่อจาก อาร์เซนอล ไม่แพ้ 49 เกม ในซีซั่น 2003-04 และเชลซี ระหว่างตุลาคม 2004 ถึงพฤศจิกายน 2005
แพ้ แต่ไม่แพ้ในลีก
ตัดพรีเมียร์ลีกออกไป ปี 2019 ลิเวอร์พูล พบความพ่ายแพ้ภายในประเทศ 2 นัดเท่านั้น ในเกมเอฟเอ คัพ กับวูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อเดือนม.ค.ปีที่แล้ว และเกมส่งเด็กไปโดนแอสตัน วิลลา สอนเชิงถ้วยคาราบาว คัพ เมื่อเดือน ธ.ค.
หากต้องการนับบอลชิงโล่การกุศล “คอมมูนิตีชิลด์” ซึ่งแพ้จุดโทษ แมน ฯซิตี ทีมของคลอปป์ จะแพ้ 3 นัด ในการแข่งขันในประเทศ
ขณะที่ผลงานนอกประเทศ เสียท่าไป 2 นัด ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรกกับบาร์เซโลนา และเกมรอบแบ่งกลุ่มของถ้วยใบโต ที่แพ้นาโปลี
แม้จะถูกบันทึกว่าเป็นทีมแรกในอังกฤษที่สามารถคว้าโทรฟีในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ ไล่ตั้งแต่ แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟุตบอลสโมสรโลก แต่ในอังกฤษพวกเขาไม่เคยได้ถ้วยในประเทศมาเชยชมแม้แต่ใบเดียว
ทีมไร้พ่าย 5 ลีกใหญ่ยุโรป
มี 12 ทีมในสโมสรยุโรป ที่สร้างสถิติไร้พ่ายยาวนานกว่า 1 ปี ส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ในบั้นปลาย แต่มีแค่ 3 ทีมเท่านั้นในชาร์ตนี้ที่ต้องอกหักและหนึ่งในนั้นคือ ลิเวอร์พูล
เอซี มิลาน ฤดูกาล 1991-93 คือเจ้าของสถิติไร้พ่ายยาวนานที่สุด 58 เกม จาก 672 วัน ในเซเรีย อา อิตาลี ระหว่างพฤษภาคม 1991 ถึงมีนาคม 1993
หากลิเวอร์พูล ต้องการไล่ตามสถิติของปีศาจแดงดำ พวกเขาจะต้องไม่แพ้ทีมใดไปถึงวันที่ 5 พฤศจิกายนของปีนี้เป็นอย่างน้อย ซึ่งหากทำสำเร็จตัวเลขจะเป็น 50 นัด กับ 500 วัน ซึ่งจะขึ้นมารั้งอันดับ 2 ของสถิติทีมไร้พ่ายยาวนานที่สุดนับจากจำนวนเกม จากนั้นจะต้องการอีก 584 วัน เพื่อขึ้นไปทาบสถิติสูงสุดแต่ต้องรอในซีซั่นถัดไป
ถ้านับเฉพาะในอังกฤษ อาร์เซนอล ชุด “ดิ อินวิซิเบิล” คือทีมที่ไร้พ่ายยาวนานที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ 49 นัด ซึ่งตรงนี้หาก 539 วัน จากนี้ลิเวอร์พูลไม่แพ้ทีมใดพวกเขาจะกลายเป็นทีมที่เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ลีกลูกหนังอังกฤษที่เริ่มแข่งขันกันตั้งแต่ปี 1888 ทันที ซึ่งหมายความว่าอย่างน้อยพวกเขาต้องไม่แพ้ทีมใดไปจนจบฤดูกาล
ทีมไร้พ่ายยาวนานที่สุดนับจากจำนวนเกม
(เฉพาะ 5 ลีกใหญ่ยุโรป)
1. เอซี มิลาน (1991-93) 58 นัด
2. บาเยิร์น มิวนิค (2012-13) 53 นัด
3. อาร์เซนอล (2003-04) 49 นัด
ยูเวนตุส (2011-12) 49 นัด
5. บาร์เซโลนา (2017-18) 43 นัด
6. นอตติงแฮม ฟอเรสต์ (1977-78) 42 นัด
7. เชลซี (2004-05) 40 นัด
ฟิออเรนตินา (1955-56) 40 นัด
9 . เรอัล โซเซียดัด (1979-80) 38 นัด
10. เปรูจา (1978-79) 37 นัด
ลิเวอร์พูล (2019-20) 37 นัด
****ที่มา BBC Sport
อย่างไรก็ตามอีก 2 ทีมที่ครองสถิติในชาร์ตนี้แต่บั้นไม่ปลายอกหักได้แค่รองแชมป์คือ เปรูจา ฤดูกาล 1978-79 ที่ตอนนั้นชนะ 11นัด และเสมอ 19 เกม จาก 30 นัด แต่ก็ต้องเสียแชมป์เซเรีย อา ให้เอซี มิลาน ที่แพ้ไปถึง 3 เกม
เช่นเดียวกับ โซเซียดัด ที่ช่วงเวลานั้นจะทำสถิติไม่แพ้นาน 38 นัด แต่เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 1979-80 ทีมที่คว้าแชมป์ ได้แก่ เรอัล มาดริด ที่มีแต้มมากกว่าพวกเขาแค่แต้มเดียว ทั้งที่ ราชันชุดขาว แพ้ถึง 3 เกม (ฤดูกาลดังกล่าว โซเซียดัด แพ้ 1 นัด แต่เกิดขึ้นหลังจากผ่านสถิติ 38 นัดของพวกเขาไปแล้ว
หัวใจไร้พ่ายอยู่ที่ 3 ประสาน
3 มกราคม 2019 ในเกมลีกที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-2 ตั้งแต่นั้น ลิเวอร์พูล เดินหน้าเก็บชัยชนะ 32 จาก 37 นัด เฉลี่ยเก็บแต้มนัดละ 2.73 คะแนน ซึ่งถ้านับแค่ช่วงเวลานี้จำนวนแต้มเฉลี่ยต่อเกมของพวกเขาดีกว่า แมนฯ ซิตี เจ้าของสถิติ 100 แต้ม ในฤดูกาล 2017-18 ที่ตอนนั้นเก็บไปนัดละ 2.63 คะแนน
ย้อนกลับไปตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว (ฤดูกาล 2018-19) ตอนนั้น หงส์แดง เดินหน้าเก็บชัย 9 นัดติดต่อกัน แต่สุดท้าย 97 แต้ม ก็ทำให้แค่เป็นรองแชมป์ที่ดีที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตามถ้านำเกมที่ชนะติดๆ กันมารวมกับซีซั่นนี้ ที่ช่วงเวลานั้นออกสตาร์ทด้วยการชนะรวด 8 นัด ก่อนจะมาเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อตุลาคม 2019 ลูกทีมของคลอปป์ ขาดไปอีกแค่นัดเดียวก็จะทาบสถิติชนะรวด 18 นัดของแมนฯ ซิตี ได้สำเร็จ
ปัจจุบัน 13 แต้ม คือระยะห่างที่พวกเขามีเหนือทีมรองจ่าฝูงอย่าง เลสเตอร์ ซิตี พร้อมกับเกมในมืออีก 1 นัด แต่บรรดา เดอะ ค็อป อาจไม่กล้ามั่นใจ 100% เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล เป็นทีมแรกที่นำจ่าฝูงในช่วงปีใหม่ด้วยระยะห่าง 7 แต้ม แล้วไม่ได้แชมป์ลีก
แม้ความจริงเครดิตนี้ทีมงานและนักเตะทุกคนล้วนแต่ควรกระแทกมือให้ แต่ก็ปฏิเสธยากเหลือเกินว่าสามประสานอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต ฟีร์มิโน และซาดิโอ มาเน คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์สร้างผลงานที่น่าเหลือเชื่อในรอบปีที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล ยิงไป 89 ประตู หลังผ่าน 29 นัดในพรีเมียร์ลีก มาเน (25 ลูก), ซาลาห์ (19 ลูก) และฟีร์มิโน 10 ประตู ซึ่งจำนวนที่ทั้งสามพระกาฬยิงรวมกันนั้นเกินกว่าครึ่งหนึ่งที่ทีมทำได้ทั้งหมด
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ (6 ประตู) และ ดิวอค โอริกี (5 ลูก) คือสองนักเตะที่ยิงเกิน 5 ลูกขึ้นไป นอกเหนือจากสามตัวรุก
ส่วนผู้เล่นที่ผ่านบอลให้เพื่อนยิงประตูมากสุดไม่พ้น 2 ฟูลแบ็ก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนล 17 แอสซิสต์ ตามด้วย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 13 ครั้ง
โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 2 นัด ถัดไปของลิเวอร์พูล ต้องเจอสองทีมที่เคยหยุดสถิติและความร้อนแรงของพวกเขามาแล้ว
วันเสาร์ที่ 11 มกราคม เยือน ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ของ ชูเซ มูรินโญ ที่เคยสร้างความชอกช้ำให้สาวกหงส์แดงปี 2014 สมัย เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม เกมแดงเดือดกับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เป็นคนหยุดสถิติชนะรวดของพวกเขาซีซั่นนี้
เรียบเรียง : พชร นาคจู
ภาพ AFP
ที่มา : https://www.bbc.com/sport/football/50688370
ข่าวที่เกี่ยวข้อง