จุดพลุต้อนรับปีใหม่ที่ซิดนีย์ยังเป็นประเด็นดราม่า ระหว่างควรยกเลิกกับเดินหน้า ท่ามกลางวิกฤติหมอกควัน คลื่นความร้อน ไฟป่าและการท่องเที่ยว
เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวัน การจุดพลุส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ นครซิดนีย์ เมืองเอกรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์การแสดงดอกไม้ไฟปีใหม่ของโลก ก็จะเปิดฉาก
แต่ในปีนี้กลับมีเสียงโต้แย้งขึ้นมา มีผู้ลงชื่อสนับสนุนกว่า 2.5 แสนคนให้งดอีเวนต์ที่ถือเป็นหน้าตาของออสเตรเลียและแหล่งรายได้สำคัญ เพื่อนำงบประมาณไปใช้เยียวยาวิกฤติไฟป่าแทน นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลเรื่องความปลอดภัยและแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับเพื่อนร่วมชาติที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า
ล่าสุด เสียงฝ่ายนี้ยิ่งดังขึ้นอีก เมื่อระดับรองนายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ จอห์น บารีลาโร ทวีตสนับสนุนว่า นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ยากเย็นอะไร สมควรยกเลิก เพราะความเสี่ยงนั้นมากเกินไป
“ความเสี่ยงสูงเกินไป เราต้องเคารพอาสาสมัครดับเพลิงที่เหน็ดเหนื่อยของเรา หากหลายพื้นที่ในภูมิภาค ห้ามจุดพลุ ก็อย่าปล่อยให้มีพลเมืองสองชั้นเลย เราทั้งหมดอยู่ในวิกฤตินี้ด้วยกัน”
Sydneys New Years Eve Fireworks should just be canceled, very easy decision. The risk is too high and we must respect our exhausted RFS volunteers. If regional areas have had fireworks banned, then lets not have two classes of citizens. Were all in this crisis together.
— John Barilaro MP (@JohnBarilaroMP) December 29, 2019
สวนทางกับผู้นำรัฐนิวเซาท์เวลส์ แกลดีส เบเรจิกเลียน ที่เห็นว่าควรคงการจัดงานจุดพลุไว้ดังเช่นทุกปี ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ สำนักงานบริการดับเพลิงชนบท (อาร์เอฟเอส) ระบุว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะต้องยกเลิกจุดพลุปีใหม่หากสถานการณ์เสี่ยงเกินไป
อุณหภูมิทั่วรัฐคาดว่าจะพุ่งขีดสุดในวันอังคาร แถบตะวันตกของซิดนีย์อาจร้อนกว่า 40 องศาเซลเซียส
ฝ่ายบริหารเมืองซิดนีย์ ยืนยันว่าการยกเลิกจัดงาน จะให้ประโยชน์ทางปฏิบัติน้อยมากแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ การแสดงดอกไม้ไฟที่ใช้งบราว 6 ล้านดอลลาร์ สร้างรายได้การท่องเที่ยวคืนกลับ 130 ล้านดอลลาร์ และมีคนทั่วโลกเฝ้าชม 1 พันล้านคน หากยกเลิกจะกระทบธุรกิจซิดนีย์อย่างรุนแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง