วัยรุ่นอินโดนีเซียนัดฉลองวันเกิดกับเพื่อนที่โรงแรมหรูสิงคโปร์ เกิดเหตุเข้าใจผิดนำไปสู่การถูกจับกุม 14 ชม. เพราะผงระงับกลิ่นกายที่พกติดตัวไปด้วย
ชาโรเนีย ปารุนทู ( Sharonia Paruntu ) วัยรุ่นอินโดนีเซีย โพสต์อินสตาแกรม แชร์ประสบการณ์ที่เป็นฝันร้ายในวันเกิดของตัวเอง เมื่อถูกตำรวจสิงคโปร์กักตัวนานถึง 14 ชม. หลังจากผงระงับกลิ่นกายจำนวนเล็กน้อยที่เธอพกใส่ห่อพลาสติกแบบซีล ถูกพนักงานโรงแรม ดับเบิลยู สิงคโปร์ ในเซนโตซา โคฟ เข้าใจผิดว่าเป็นยาเสพติด
ตำรวจสิงคโปร์ ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 9.29 น. วันที่ 10 พ.ย. ว่าพบผงสีขาวต้องสงสัย ในห้องพักโรงแรม ดับเบิลยู สิงคโปร์ และได้เข้าจับกุมชาย 1 คน หญิง 3 อายุระหว่าง 18-19 ปี ฐานต้องสงสัยมียาเสพติดเพื่อเสพและมีในครองครอง จากนั้น ได้ปล่อยตัวทั้งหมดแบบไม่มีเงื่อนไข เมื่อเวลา 01.43 น. วันที่ 11 พ.ย. หลังผลตรวจสอบผงสีขาวในเบื้องต้นและผลตรวจตัวอย่างปัสสาวะ ออกมาเป็นลบ
( ประตูที่เปิดไม่ออก แล้วพัง โรงแรมคิดค่าเสียหาย 1,700 ดอลลาร์สิงคโปร์ก่อนคืนให้หลังแม่ของเธอร้องเรียน)
ปารุนตู ซึ่งเป็นชาวอินโดนีเซียพำนักในสิงคโปร์ เล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นว่า เวลาประมาณ 2.00 น. เพื่อนสองคนของเธอติดอยู่ในห้องอาบน้ำ พยายามปิดประตูแต่เปิดไม่ออก เพื่อนอีกคนพยายามจะช่วยแต่สุดท้ายทำประตูบานเลื่อนใสพัง จึงตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือจากพนักงาน เมื่อพนักงานไปถึง สังเกตเห็นผงสีขาวในถุงพลาสติก แต่ไม่ได้ถามเธอเลยว่าเป็นผงอะไร
เธอบอกตำรวจขณะพูดคุยในห้องพักโรงแรมว่า “แค่ทาผงนี้ใต้วงแขนแล้ว คุณก็จะไม่ได้กลิ่นอะไรเลยตลอดวัน” แต่แล้วตำรวจก็คุมตัวเธอและเพื่อนออกจากโรงแรมในสภาพสวมกุญแจมือ “เป็นเรื่องน่าอายมาก เพราะแขกบางคนในโรงแรมมองมาที่พวกเราและคงสันนิษฐานไปแล้วว่าพวกเราเป็นอาชญากร
เธออ้างว่าตำรวจปฏิบัติกับเธอราวอาชญากร ถูกกัก 14 ชม. ต้องนอนกับพื้นห้องขัง และได้รับประทานอาหารครั้งเดียว
สแตนลีย์ ปารุนตู บิดาของเธอ ได้นำโพสต์ของลูกสาวบนอินสตาแกรม มาบอกเล่าบนเฟซบุ๊ก เพราะมองว่าเป็นการจับกุมผิดๆและเกินกว่าเหตุ
ขณะที่ เดอะ นิว เปเปอร์ สื่อสิงคโปร์ อ้าง นายอาโมลัต ซิงห์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย ที่แสดงความเห็นว่า ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในกรอบกฎหมาย ที่ให้อำนาจคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 48 ชม. เพื่อสอบสวนเบื้องต้นหากมีเหตุอันควรสงสัย และพฤติการณ์แวดล้อมในกรณีนี้ ที่รวมถึงประตูห้องอาบน้ำพัง บวกกับการพบผงสีขาวในถุงพลาสติกเล็ก ล้วนเป็นเหตุให้สงสัยได้
เช่นเดียวกับ ราจัน สุพรมมาเนียม ทนายความ ที่ระบุว่า การคุมตัว 14 ชม. ไม่ได้ผิดปกติวิสัย เพราะกระบวนการตรวจสอบตัวอย่างที่ส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขศาสตร์ ต้องใช้เวลาหลายชม. ส่วนการสวมกุญแจมือเยาวชนก็ไม่ได้ผิดธรรมดาอีกเช่นกัน ในบางสถานการณ์ ตำรวจต้องสวมกุญแจมือผู้ต้องสงสัย เช่น หากผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่ให้ความร่วมมือ คึกคะนองหรือมีพฤติกรรมรุนแรง
มารดาของเด็กสาว ได้เขียนร้องเรียนไปที่การท่องเที่ยวสิงคโปร์ และแผนกบริการลูกค้าของโรงแรง แมร์ริออต ซึ่งทางโรงแรมได้ขอโทษและคืนเงิน 1,700 ดอลลาร์ที่คิดค่าเสียหายประตูพัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง