ข่าว

ตกงานขาดรายได้จี้ร้านสะดวกซื้อ 2 สาขา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจพิจิตรรวบหนุ่มอ้างตกงานขาดรายได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 2 สาขา

 

              วันที่ 22 ต.ค. 62  พล.ต.ต.มาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยตำรวจ สภ.โพธิ์ประทับช้าง และตำรวจ สภ.หนองโสน นำตัว นายอุเทน สุรินทร์ อายุ 31 ปี ชาวตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

 

 

              หลังจากใช้อาวุธมีดปลายแหลมก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 2 สาขา ในเขตพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.โพธิ์ประทับช้าง และ อ.สามง่าม โดยเหตุแรก เมื่อวันที่ 21 กันยายน เวลา 02.02 น. ผู้ต้องหาใช้รถจักรยานยนต์ สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน ขจต 483 จังหวัดนครปฐม พร้อมอาวุธมีดเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ สาขาบ้านสระยายชี ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร โดยใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาจี้บังคับให้พนักงานร้านสะดวกซื้อหยิบเงินในเคานท์เตอร์ลิ้นชักจำนวน 1,400 บาท และใช้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับขี่หลบหนีไป

              และต่อมา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม เวลา 02.55 น. ผู้ต้องหาคนเดิมก็ได้ใช้อาวุธมีด พร้อมยานพาหนะ คือรถจักรยานยนต์คันเดิมที่เคยก่อเหตุ ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ สาขาตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร และได้เงินสดไปจำนวน 1,000 บาท ก่อนที่จะหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อทั้ง 2 สาขา สามารถบันทึกภาพไว้ได้

              จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอุเทน ผู้ต้องหา ถูกเลิกจ้างงาน และไม่มีเงินใช้จ่าย จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหาได้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ในช่วงเวลากลางคืน ผู้ต้องหา คือ นายอุเทน ได้ย้อนกลับมาดูลาดเลาที่ร้านสะดวกซื้อสาขาตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เพื่อที่จะก่อเหตุซ้ำ แต่เป็นช่วงเวลาที่มีผู้คนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง นายอุเทน ผู้ต้องหา ไม่ได้ปิดบังไปหน้า จึงทำให้กล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกภาพไว้ได้จนนำไปสู่การจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ในเขตตำบลไผ่รอบ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

 

 

 

              ตำรวจจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยปิดบังใบหน้าหรือกระทำด้วยประการอื่นใดเพื่อไม่ให้หรือจดจำใบหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดเพื่อการพาทรัพย์ไปให้พ้นจากการถูกจับกุม พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรต่อไป

 

 

 

--------------------

สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ