น้ำลดต่อเนื่อง 3 อำเภอเมืองชาละวันพ้นวิกฤต

 

               สถานการณ์น้ำท่วมเมืองชาละวันถึงจุด 3 ลด 3 เพิ่ม น้ำที่เคยท่วมในเขต อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.ทับคล้อ ซึ่งรับน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ขณะนี้รอดพ้นจากจุดวิกฤตแล้ว ปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หลงเหลือไว้แค่ร่องรอยความเสียหาย แต่มวลน้ำกลับไหลเพิ่มไปยัง 3 อำเภอ คือ อ.เมืองพิจิตร อ.ตะพานหิน อ.บางมูลนาก ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ริมแม่น้ำน่านมวลน้ำไหลบ่ารอการระบายจ่อลงแม่น้ำน่าน ที่ขณะนี้มีระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเพียงแค่ 50-60 เซนติเมตรเท่านั้น ล่าสุดชาวนาเห็นวิกฤตเป็นโอกาส ใช้พื้นที่ที่เก็บเกี่ยวข้าวแล้วทำเป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำทำนาปรังช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

 

 

 

 

 

               ล่าสุดวันนี้ 6 ก.ย. 2562 นางรติฬส พ่วงพร้อม หัวหน้า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร สั่งการให้นายจิรวุฑฒิ ผะอบเหล็ก นายช่างโยธาชำนาญงาน สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ร่วมกับผู้สื่อข่าวเพื่อดูสถานการณ์น้ำที่เคยท่วม พบว่าในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.ทับคล้อ ปริมาณน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ถนนทางหลวงหมายเลข 11 เขาทราย - วังทรายพูน-สากเหล็ก , ถนนตะพานหิน - ทับคล้อ - เขาทราย ทางหลวงหมายเลข 113  รถเล็กรถใหญ่สามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ น้ำที่เคยท่วมตลาดทับคล้อ รวมถึงย่านชุมชนและวัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว

 

 

 

 

               นายมานพ บุญโห้ ผู้ใหญ่บ้านวังกระชัน หมู่ 5 ต.ท้ายทุ่ง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร รายงานว่า ในส่วนของชาวบ้านวังกระชัน หมู่ 5 ต.ท้ายทุ่ง อ.ทับคล้อ ที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมจำนวน 8 ครัวเรือน 32 คนที่ต้องอพยพมาอาศัยหลบภัยอยู่ในวัดศรีชันจนาราม (วัดวังกระชัน) ขณะนี้ก็ได้กลับไปอยู่ที่บ้านเรือนของตนเองตามปกติแล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีหลายจุดที่ต้องการความช่วยเหลือและซ่อมแซมสะพานและคันคลองที่ชำรุดในอนาคตข้างหน้าต่อไป

 

 

 

 

 

               ในส่วนของสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้นขณะนี้พบว่าที่หมู่ 2 บ้านวังหลุม , ต.ดงตะขบ ของ อ.ตะพานหิน ยังคงมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรที่อยู่ในที่ลุ่ม ส่วนเขต อ.บางมูลนาก ที่ ต.ภูมิ น้ำได้ไหลเข้าท่วม รร.บ้านหนองเต่า แล้ว และจ่อจะเข้าท่วม ร.ร.อนุบาลบางมูลนาก (ห้วยเขน) รวมถึงพื้นที่ข้างเคียงไม่เว้นแม้แต่ถนนหน้า อบต.ภูมิ ก็มีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านกำลังเร่งขนกระสอบทรายเพื่อจะไปป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านเรือนของตนเอง แต่ที่ในส่วนของวัดห้วยเขน ซึ่งเป็นโบราณสถานมีโบสถ์เก่าแก่ อายุกว่า 150 ปี ก็ถูกน้ำท่วมขังมาหลายวันแล้วด้วยเช่นกัน รวมถึงบริเวณทางหลวงชนบท หมายเลข พจ.4028  บ.บางไผ่ - บ.เขาดิน น้ำเริ่มกัดเซาะไหล่ทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงชนบทก็ได้เข้าเรียงหินเพื่อกันน้ำกัดเซาะไหล่ทางแล้ว สำหรับปริมาณน้ำและมวลน้ำเหล่านี้ก็กำลังไหลไปยัง ต.บางไผ่ ต.หอไกร ต.เนินมะกอก ที่ไหลเข้ายังคลองบางไผ่เพื่อจะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่าน แต่ก็ปรากฏว่าระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงขึ้นยันกับน้ำทุ่งที่รอการระบายทำให้เห็นสภาพน้ำท่วมทุ่งนา

 

 

 

 

               นายอภิรักษ์ ศรีกุลวงศ์ ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร ให้ข้อมูลว่า น้ำที่ลดจาก 3 อำเภอแล้วมาเพิ่มใน 3 อำเภอ ที่อยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำน่าน มีประตูระบายน้ำ 8-9 แห่ง ที่เป็นเครื่องมือในการระบายน้ำทุ่งลงสู่แม่น้ำน่าน ที่ตอนนี้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่จุดวัดระดับน้ำ อ.บางมูลนาก ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง เพียงแค่ 50-60 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ที่เห็นน้ำท่วมทุ่งนั้นเป็นความต้องการของเกษตรกรและกลุ่มผู้ใช้น้ำที่ลงมติกันว่าจะกักเก็บน้ำไว้ในท้องทุ่งนาที่เกี่ยวข้าวไปแล้วให้เป็นพื้นที่แก้มลิงเพื่อจะทำนาปรัง 1 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 ซึ่งเป็นไปตามหลักของการบริหารจัดการน้ำตามหลักวิชาการและตามวิถีชีวิตของชาวบ้าน แต่ที่ต้องดูแลน่าจะเป็นที่ลุ่มที่น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรพื้นที่การเกษตรไม่น่าห่วง ดังนั้นถ้าเห็นน้ำท่วมทุ่งนาในแถบพื้นที่ 3 อำเภอ ของริมแม่น้ำน่าน ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ส่วนสถานการณ์ลุ่มน้ำยมแถบ ต.วังจิก ต.ไผ่รอบ ต.รังนก ฯลฯ ณ ขณะนี้ยังคงรับมือได้ ที่มีข่าวน้ำท่วมในบางจุดนั้นก็เป็นที่ลุ่มและเป็นพื้นที่แก้มลิงที่ชาวนาปลูกข้าวตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 62 และเก็บเกี่ยวข้าวไปเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

------------------------------------------

(ข่าว/ภาพ สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร)

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-นายกฯ ลั่น น้ำท่วมต้องคิดแก้ใหม่ทั้งหมด
-ทำให้ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
-(คลิปข่าว) นิวยอร์กประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังน้ำท่วมฉับพลัน
-3 จว.ยังอ่วม น้ำท่วม ดินสไลด์