กรมการแพทย์ ติวเข้ม หมอ-เภสัชฯ คลายล็อคเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และการศึกษาวิจัย
อุดรธานี - เขตสุขภาพที่ 8 กรมการแพทย์ ติวเข้มหมอ เภสัช ใช้สารสกัดจากกัญชารักษาผู้ป่วย เผยตัวเลขผู้ป่วยเขตสุขภาพที่ 8 ลงทะเบียนขอใช้กัญชารักษา 7 พันกว่าคน
เวลา 09.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2562 ที่ชั้น 7 โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย นายแพทย์สมิต ประสันนาการ ผอ.เขตสุขภาพที่ 8, นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี, นายแพทย์ณรงค์ ธาดาเดช ผอ.รพ.อุดรธานี และ นายแพทย์วิเชียร รุ่งธิติธรรม รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าว การใช้สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์ ว่า
ด้วยปัจจุบันนี้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 มีสาระสำคัญ คือ กัญชายังคงจัดเป็นยาเสพติดประเภท 5 แต่ได้คลายล็อคให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และการศึกษาวิจัยได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งการนำสารสกัดกัญชามาใช้กับผู้ป่วยต้องดำเนินการ โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขรับรอง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ เปิดเผยว่า ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ดำเนินการจัดอบรมในกรณีของการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ทีมจังหวัดอุดรธานี โรงพยาบาลอุดรธานีได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขที่ประกาศด้านการนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์
รวมถึงประชาชนมีความสนใจสอบถามด้านกัญชาเพื่อใช้ในการบำบัดรักษาโรค และการให้บริการยังมีข้อจำกัด เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ เภสัชกร และทันตแพทย์ ที่ผ่านการอบรมในเขต 8 ยังมีน้อย จึงได้ดำเนินการจัดอบรมบุคลากรภายในเขต 8 เพื่อตอบสนองการบริการประชาชนได้
ส่วนการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุขมอบหมายให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ดำเนินการผู้ผ่านการทดสอบหลังอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรจากกรมการแพทย์และได้รับอนุญาตจาก อย. ให้สามารถสั่งใช้-จ่าย สารสกัดกัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วยได้ อย่างไรก็ตามสถานบริการสุขภาพต้องขออนุญาต อย. เพื่อจำหน่ายกัญชาให้กับผู้ป่วยด้วย
ปัจจุบัน ข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนว่าสารสกัดกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้ เนื่องจากสาร THC ที่ได้จากการสกัดกัญชาลดปวดและบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ แต่ยังออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทด้วย หากใช้สารสกัดโดยไม่ระวังจะส่งผลให้เกิดอาการทางจิตได้
ดังนั้นหลักสูตรการอบรมที่กรมการแพทย์ดำเนินการจึงเป็นการให้ข้อมูลรอบด้านที่เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ มีทั้งในส่วนที่เป็นประโยชน์ว่าควรใช้ในผู้ป่วยกลุ่มใด ขนาดเดียวกันก็มีการให้ข้อมูลข้อพึงระวังในการนำมาใช้ การรักษาพิษจากกัญชา การเฝ้าระวังการเสพกัญชา เป็นต้น
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า ทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้เตรียมความพร้อม ให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาและสมุนไพรทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัย โดยเริ่มกระจายการให้บริการสารสกัดน้ำมันกัญชากับโรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง และยังมีสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านแพทย์แผนไทยอีก 7 แห่งทั่วประเทศ
จังหวัดอุดรธานีได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับภารกิจดังกล่าวอย่างครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ ด้านบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ จะเน้นให้การรักษาในโลกที่กำหนดว่าใช้กัญชาได้ผลเป็นหลัก ได้แก่ โรคลมชักที่รักษายาก ภาวะคลื่นไส้และอาเจียนจากยาเคมีบำบัดที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานไม่ได้ผล ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ปวดประสาทที่รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผลโดยโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เปิดให้บริการทุกวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน โดยแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย
ที่ผ่านมาโรงพยาบาลอุดรธานี ได้ทดลองเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ดำเนินการตรวจรักษาและให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยที่มารับน้ำมันกัญชาจากโรงพยาบาล จำนวน 315 ขวด ซึ่งเหมาะกับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีอาการแทรกซ้อนจากโรค เช่น ภาวะปวดนอนไม่หลับ ซึ่งผู้ป่วยที่ได้รับยาเป็นรายแรกมาติดตามอาการหลังการรักษาที่คลินิกด้วย ที่ผ่านมามีการโทรศัพท์ติดตามอาการโดยเภสัชกรที่ผ่านการอบรมการใช้กัญชาทางการแพทย์ด้วย
จากนั้น นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้เป็นประธานเปิดการอบรมเรื่อง “การใช้สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์” เพื่อเตรียมความพร้อมรับนโยบายการใช้สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์ โดยมีนายแพทย์สมิต ประสันนาการ ผอ.เขตสุขภาพที่ 8 นำ แพทย์และเภสัชกร ทันตแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ จากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งของเขตสุขภาพที่ 8 จำนวน 300 คนเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้
โดยข้อมูลภาพรวมเขตทั้ง 7 จังหวัด พบว่า ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทาง การแพทย์จาก 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคมะเร็งที่มีภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด โรคลมชัก ที่รักษายากและดื้อต่อยารักษา โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งและมีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง และ ภาวะปวดประสาท ประมาณ 1,500 คน มีผู้ป่วยที่ลงทะเบียนคาดว่าจะต้องใช้กัญชาทาง การแพทย์ จังหวัดภายในเขต 8 ทั้งสิ้น 7,439 คน
สำหรับการจัดการอบรมในครั้งนี้ทางกรมการแพทย์ได้ร่วมกับเขตสุขภาพที่ 8 ให้มีขึ้น 2 วันระหว่างวันที่ 26 – 27 ส.ค.โดยวิทยากรที่มาถ่ายทอดความรู้ให้เป็นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ และหลังจากอบรมเสร็จแล้วผู้ที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบความรู้จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากกรมการแพทย์ เพื่อใช้ประกอบการขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการเป็นผู้สั่งใช้-จ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ต่อไป
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค คมชัดลึก จ.อุดรธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง