ชาวบ้านวังน้ำเขียวโคราชวอน "ลุงตู่" แก้ปัญหาคนกับป่า ทวงงบปักปันแนวเขตแดน 2 พันล้านหายไปไหน
นครราชสีมา - ป่ารุกคนหรือคนรุกป่า!!! ชาวบ้านวังน้ำเขียวโคราชวิงวอน "รัฐบาลลุงตู่" เช็ดคราบน้ำตา หลังถูกอุทยานแห่งชาติทับลานรังแก เผยผู้ตรวจการแผ่นดินเคยลงพื้นที่ตรวจแนวเขตแล้ว และยืนยันให้ปรับปรุงแนวเขตอุทยาน ตามมติ ครม. เมื่อปี 2540 ระบุ เป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม จึงไม่สามารถประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติได้ ทวงถามงบปักแนวเขตแดน 2,000 กว่าล้านบาท เมื่อ 19 ปีหายไปไหน
นายมโน คูรัตน์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การประกาศแนวเขตอุทยานฯ ปี พ.ศ.2524 เป็นการประกาศทับพื้นที่หมู่บ้านที่มีสิทธิครอบครองอยู่ก่อนแล้วกว่า 80 หมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านอาศัยมาก่อนการประกาศเขตอุทยานทับลาน โดยมีการนำความเจริญเข้าสู่พื้นที่ ทั้งสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน และได้รับการประกาศแต่งตั้งให้เป็นอำเภอหนึ่งอีกด้วย
นายมโน ระบุอีกว่า ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวจะประกาศเป็นเขตอุทยานฯไม่ได้ เพราะถือว่าผิดกฎหมายตั้งแต่แรก ซึ่งกรมอุทยานรับทราบปัญหามาโดยตลอด และต่อมามีการแก้ไขปรับปรุง และปักแนวเขตใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2543 โดยผ่านขั้นตอนต่างๆ แต่ยังไม่แก้ไขแผนที่แนบท้ายอุทยาน จึงยังไม่สามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้
"ปัจจุบันจึงยังคงใช้แนวเขตเดิมของปี พ.ศ.2524 เช่นเดิม ทางกรมอุทยานฯ ประกาศแนวเขตผิด เพราะในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตชุมชน เขต ส.ป.ก. และเขตพื้นที่เพื่อความมั่นคงของกองทัพภาคที่ 2 มาก่อน และเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม จึงไม่สามารถประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติได้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์"นายมโน แจกแจง
นายมโน กล่าวอีกว่า ส่วนการปรับปรุงแนวเขตอุทยานที่ยังคงยืดเยื้อและยังไม่ผ่านครม.นั้น ตนตั้งข้อสังเกตว่า จะมีเหตุผลอื่นแอบแฝง เช่น การลดพื้นที่ป่าจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือการลดพื้นที่ป่าจะทำให้งบประมาณที่จะเข้ามาฟื้นฟูป่าลดน้อยลงหรือไม่ จึงยังไม่มีการนำเรื่องเข้า ครม. แต่ตนเองก็ยังไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจน นอกจากนี้การใช้แนวเขตปี พ.ศ.2524 ที่ตนเชื่อว่าไม่ถูกต้องนั้น ทำให้เมื่อมีการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมกว่า 400 คดี กลุ่มชาวบ้านหรือผู้ประกอบการไม่มีทางชนะคดีแน่นอน
นายมโน ย้ำว่าหากมีการใช้แนวเขตใหม่ที่กรมอุทยานจัดทำขึ้นในปี พ.ศ.2543 มั่นใจว่าไม่มีชาวบ้านหรือผู้ประกอบการบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวเลย รวมทั้งการเข้ารื้อถอนรีสอร์ทของกรมอุทยานฯที่ผ่านมา เชื่อว่ามีการเลือกปฏิบัติ เพราะการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนต่างๆ ชาวบ้านได้ดำเนินการตามกฎหมาย และจ่ายภาษีอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนและมีหลักฐาน
"ซึ่งเป็นเอกสารที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ ส.ป.ก. หรือ ภบท.5 ยืนยันได้ว่ากลุ่มชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่ทางกรมอุทยานฯ กลับไม่มีการประกาศแนวเขตของพื้นที่อุทยานฯ อย่างชัดเจนตามกฎหมาย ซึ่งการประกาศแนวเขตอุทยาน ควรได้รับการยอมรับจากราษฎรในพื้นที่และแจ้งให้ประชาชนทราบ แต่แนวเขตปี พ.ศ.2524 ไม่ได้ทำเช่นนั้น"นายมโน กล่าว
นายมโน กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมานั้น กลุ่มชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติฯ และผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้มีการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่มีรายงานสรุปข้อเท็จจริงจากผู้ตรวจการแผ่นดินแล้วว่ากรณีดังกล่าวนั้น เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และยืนยันให้ใช้แนวเขตปี พ.ศ.2543 ในส่วนที่มีอดีตอธิบดีท่านหนึ่ง อ้างว่าในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มรดกโลกนั้น อยากให้พูดความจริง ไม่ใช่กล่าวอ้างไปเรื่อย ทำให้ประชาชนสับสน เพราะแท้ที่จริงแล้ว อุทยานแห่งชาติทับลานยังไม่ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกเลย
"รับปากว่าจะกันแต่ก็ไม่ได้กันพื้นที่ที่ทับซ้อนกับที่ทำกินของชาวบ้าน ออกจากเขตอุทยานตามที่ให้คำรับรองไว้กับองค์การยูเนสโก้ ส่วนเรื่องงบประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ที่ใช้เป็นงบประมาณในการปักแนวเขตเมื่อ ปี พ.ศ.2543 ไม่ทราบว่างบหายไปไหนหมด ซึ่งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้เคยท้วงติงไว้แล้ว อยากฝากให้รัฐบาลชุดใหม่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งแก้ไขปัญหาที่ซ้ำซากมาหลายปีให้จบ เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านอำเภอวังน้ำเขียวด้วยครับ" นายมโน ตัวแทนชาวบ้านวังน้ำเขียว กล่าวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง