ข่าว

กรมพลศึกษา ย้ายไปคลอง 6 แน่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง" - สันติ ป่าหวาย อธิบดีกรมพลศึกษา

นายสันติ ป่าหวาย อธิบดีกรมพลศึกษา ได้แถลงนโยบายและแนวทางการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ โดยมีคณะผู้บริหารกรมพลศึกษา ข้าราชการ และบุคลากรของกรมพลศึกษา เข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียงที่ ห้องประชุมศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 เมษายน หลังจากที่ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ได้มีพระบรมราชโองการ โปรดเหกล้าฯ ให้นายสันติ ป่าหวาย พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมพลศึกษา ต่อจาก นายปัญญา หาญลำยวง ซึ่งสลับไปเป็นรองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแทน

กรมพลศึกษา ย้ายไปคลอง 6 แน่

 

อธิบดีกรมพลศึกษา คนที่ 29 ได้กล่าวว่า ตนเองนั้นเป็นคนพลศึกษา 100 เปอร์เซนต์ มาเพื่อรับใช้กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประเทศชาติ ขอให้ทุกคนทำงานร่วมกันในการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐให้เป็นรูปธรรม ตนอยากเห็นกรมพลศึกษา อยู่ในใจของคนไทยทุกคน สร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนในการเล่นกีฬา ทำกิจกรรมออกกำลังกายและนันทนาการ สร้างความสุขให้คนทั้งประเทศ 

“ผมจะเข้ามาสานต่องานของ อธิบดีปัญญา หาญลำยวง สิ่งที่ทำไว้ดีแล้ว ก็ต้องทำต่อไป อะไรที่ยังค้างคา ก็ต้องทำต่อให้เสร็จ ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างงานใหม่ ๆ ขึ้นมาด้วย ผมเป็นคนทำงานไว เพราะฉะนั้นทุกคนทำงานอย่าช้า จะทำอะไรต้องทำทันที” 

นอกจากนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้ให้โจทย์ใหญ่เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรของกรมพลศึกษาอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่กรมพลศึกษา หรือ จพล. ที่มีกว่า 954 คนในทุกอำเภอทั่วประเทศ จะต้องเป็นเหมือน ท่องเที่ยวและกีฬาของอำเภอนั้น ๆ จะต้องได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมให้สามารถปฏิบัติงานให้กับกรมพลศึกษาได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ อาสาสมัครกีฬา หรือ อสก. ก็จะต้องเป็นเหมือนแขนขาของกรมพลศึกษา ที่จะรับโครงการกีฬาใหม่ ๆ ไปปฏิบัติให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยกรมพลศึกษา จะคอยกำกับดูแลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

กรมพลศึกษา ย้ายไปคลอง 6 แน่

สำหรับเรื่องสำคัญที่คนกรมพลศึกษารอฟังอย่างใจจดจ่อ นั่นคือการย้ายกรรมพลศึกษาออกจากพื้นที่สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน ภายหลังจากที่ จุฬาลงกรณ์ ขอคืนพื้นที่ทั้งหมดภายในปี 2565 นั้น นายสันติ กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้หวังดีหลายท่านว่า หากต้องย้ายกรมพลศึกษา ก็จะเป็นอธิบดีคนแรกที่เป็นคนทำเรื่องนี้ ซึ่งตนอยากจะบอกว่า อย่าได้กลัวการเปลี่ยนแปลง หากว่าสิ่งนี้ต้องทำจริง ๆ ก็ต้องเริ่มทำจนได้ กรมพลศึกษา คงจะไม่อยู่ในพื้นที่ของคนอื่นตลอดไป เพราะมีอาณาจักรของตนเองกว่า 170 ไร่ ที่คลอง 6 โดยขั้นตอนการย้ายนั้น ในวันที่ 19 เมษายนนี้ จะเดินทางไปสำรวจพื้นที่ที่คลอง 6 เพื่อจะได้เริ่มดำเนินการต่อไป  

 

สำหรับ นโยบายและแนวทางการดำเนินงานโครงการต่างๆของ อธิบดีกรมพลศึกษา คนที่ 29 

​1. การกีฬาขั้นพื้นฐานและกีฬามวลชน มุ่งเน้นการส่งเสริมการออกกำลังกาย กีฬา เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทุกกลุ่มวัยมีความรู้ ความตระหนัก มีทัศนคติที่ดี และออกกำลังกาย เล่นกีฬาจนเป็น วิถีชีวิต เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. 2560-2564)

​2. นันทนาการ ส่งเสริมและสนับสนุนประชาชนทุกกลุ่มให้ประกอบกิจกรรมนันทนาการจนเป็นวิถีชีวิต เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564)

​3. การสร้างเครือข่ายการออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการ เร่งสร้างเครือข่ายโดยบูรณาการกับทุกภาคส่วนในเสริมสร้างการออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการสำหรับประชาชนให้ครอบคลุมในทุกชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และลดปัญหาสังคม โดยเจ้าหน้าที่พลศึกษาที่มีอยู่ประจำทุกอำเภอและอาสาสมัครกีฬาทั่วประเทศเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน

​4. การส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานบุคลากรการกีฬาและนันทนาการ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้ฝึกสอนกีฬา ผู้ตัดสินกีฬา ผู้บริหารการกีฬา รวมทั้งผู้นำนันทนาการและการออกกำลังกาย ให้มีหลักสูตรการพัฒนาที่มีมาตรฐาน โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรการกีฬาอย่างเป็นระบบ

​5. การสร้างและพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรมด้านการออกกำลังกาย กีฬา นันทนาการและวิทยาศาสตร์การกีฬา มุ่งเน้นและส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการนำองค์ความรู้ นวัตกรรมด้านการออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการ ส่งเสริมการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาและเทคโนโลยีการกีฬามาใช้ในการพัฒนาสุขภาพและสมรรถภาพของเด็ก เยาวชน และประชาชน

​6. ปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิด (Mind Set) ของข้าราชการกรมพลศึกษา ให้มีความคิด จิตบริการสาธารณะ เป็นที่พึ่งของประชาชน ให้ประชาชนมีความเชื่อถือและไว้วางใจ พร้อมทั้งเป็นผู้ที่มีสมรรถนะสูงและทันสมัย (smart and high performance government)

​7. เพิ่มบทบาทของกรมพลศึกษาในการเป็นองค์กรกำกับ (Regulator) ในฐานะส่วนราชการที่มีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานด้านการกีฬาและนันทนาการ และดำเนินการภารกิจต่างๆ แบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

​8. เป็นองค์กรที่เปิดกว้างและเชื่อมโยง (Open and Connected Government) ต้องเปิดเผยและมีความโปร่งใสในการทำงาน โดยทำงานในลักษณะเครือข่าย และเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วนแบบบูรณาการ สามารถให้ประชาชนและองค์กรต่างๆ เข้ามาตรวจสอบได้

​9. พัฒนากรมพลศึกษาให้เป็นองค์กรดิจิทัล (Digitization) โดยใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านต่างๆ

​10. จัดทำแผนพัฒนา (Master Plan) สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อรองรับการย้ายสถานที่ทำงานของกรมพลศึกษา โดยกำหนดจัดทำแผนภายในเดือนตุลาคม 2562 และดำเนินการย้ายให้แล้วเสร็จภายในปี 2565

“ผมจะพัฒนากรมพลศึกษาให้เป็นองค์กรที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้ประชาชนออกกำลังกาย เล่นกีฬา และประกอบกิจกรรมนันทนาการ สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุขและเป็นหน่วยงานที่อยู่ในใจคนไทยทุกคน” 

กรมพลศึกษา ย้ายไปคลอง 6 แน่

ประวัติของนายสันติ ป่าหวาย เกิดวันที่ 23 พฤษภาคม 2509 เป็นชาว จ.ลพบุรี

ประวัติการศึกษา

ประถมศึกษา ร.ร.วัดหนองเมือง

มัธยมศึกษา โรงเรียนบ้านหมี่วิทยา

ปกศ.สูง พลศึกษา วิทยาลัยพลศึกษาสุพรรณบุรี

ปริญญาตรี พลศึกษา มศว พลศึกษา

ปริญญาโท บริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา

ปริญญาเอก การจัดการ มหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพฯ

ประวัติรับราชการ

1.ข้าราชการครู สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี

2.นักประชาสัมพันธ์ สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสระแก้ว

3.เจ้าหน้าที่พลศึกษา กรมพลศึกษา

4.ผู้อำนวยการศูนย์พลศึกษาและกีฬาจังหวัดสระแก้ว

5.ผู้อำนวยการศูนย์ท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัดน่าน

6.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง

7.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต

8.ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากร การพลศึกษาและกีฬา กรมพลศึกษา

9.รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว

10.รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

11.อธิบดีกรมพลศึกษา  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ