ข่าว

บอสโซเชียลมีเดียเสี่ยงคุกออสเตรเลียหากลบเนื้อหารุนแรงไม่ไวพอ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รัฐสภาออสเตรเลียคลอดกฎหมายใหม่ คาดโทษปรับและจำคุกผู้บริหารโซเชียล มีเดีย หากไม่สามารถลบเนื้อหารุนแรงได้อย่างรวดเร็ว 

 

 

กฎหมายใหม่ผ่านความเห็นชอบในสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ หลังผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาเมื่อคืนวันพุธ และมีเนื้อหาสำคัญที่กำหนดโทษปรับบริษัทโซเชียล มีเดีย 10.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 10% จากรายได้ประจำปี และจำคุกผู้บริหารบริษัท 3 ปี หากเนื้อหารุนแรง ไม่ถูกลบออกจากแพลตฟอร์มอย่างรวดเร็ว

 

โดยเนื้อหารุนแรง ครอบคลุมทั้ง  ก่อการร้าย ฆาตกรรม พยายามฆาตกรรม ทารุณ ข่มขืน และ ลักพาตัว นอกจากนี้โซเชียล มีเดียทั่วโลก อาจถูกปรับอีก 840,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หากไม่รีบแจ้งตำรวจออสเตรเลียเมื่อพบการไลฟ์สดเหตุรุนแรงในออสเตรเลีย

การผลักดันกฎหมายฉบับนี้ มุ่งตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่มือปืนชาวออสเตรเลียไลฟ์สด ขณะก่อเหตุกราดยิงที่มัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 คนและผู้บาดเจ็บ 50 คนเมื่อวันที่ 15 มี.ค.และคลิปไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กถูกแชร์กว้างขวางในเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงจึงจะถูกลบออก

การตัดสินว่าแพลตฟอร์มนั้นถอดเนื้อหารุนแรงอย่างรวดเร็วพอหรือไม่ จะขึ้นอยู่กับคณะลูกขุน ซึ่งก็เป็นคำถามอีกเรื่องว่าการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้น่าจะมีปัญหา

สุนิตา โบส ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มอุตสาหกรรมจิดิทัล ซึ่งเป็นตัวแทนของกูเกิล เฟซบุ๊ก แอมะซอน ทวิตเตอร์และอื่นๆ กล่าวว่า ไม่มีใครอยากให้เวบไซต์ของตนมีเนื้อหาไม่เหมาะสม และต้องลบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่แล้ว แต่ด้วยปริมาณคอนเทนท์มหาศาลอัพโหลดบนอินเทอร์เน็ตทุกวินาที  นี่จึงเป็นปัญหาซับซ้อนที่ต้องผ่านการหารือถกเถียงกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญกฎหมาย สื่อ และประชาสังคมเพื่อหาทางออกเหมาะสมที่สุด 

ขณะเดียวกัน ตำรวจนิวซีแลนด์เปิดเผยวันนี้ว่า เบรนตัน ทาร์แรนต์ มือปืนที่ก่อคดีในไครสต์เชิร์ช อาจถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 50 กระทงและพยายามฆาตกรรมอีก 39 กระทงในการขึ้นศาลครั้งที่สองวันพรุ่งนี้ และอาจถูกตั้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมด้วย หลังจากเดิมถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมเพียงกระทงเดียว เขาจะปรากฏตัวต่อศาลสูงผ่านวิดีโอลิงก์จากเรือนจำในเมืองอ๊อกแลนด์ 

ก่อนหน้านี้เขาประกาศในการขึ้นศาลครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ว่าไม่ต้องการทนายที่ศาลตั้งให้และจะสู้คดีด้วยตัวเอง ทำให้เกิดความวิตกว่า เขาอาจใช้การพิจารณาคดีเป็นเวทีโฆษณาชวนเชื่อแนวคิดชาตินิยมผิวขาวสุดโต่ง 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ