ญี่ปุ่นแขวนคอนักโทษอีก 2 ราย-ลั่นไม่ยกเลิกโทษประหาร  

 

นายทาคาชิ ยามาชิตะ รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่น แถลงว่า ได้อนุมัติให้ประหารนักโทษอีก 2 คน ได้แก่ เคโซ คาวามุระ อดีตสมาชิกแก๊งยากูซา วัย 60 ปี กับ ฮิโรโย ซูเอะโมริ วัย 67 ปี  ที่ต้องความผิดฐานฆาตกรรมด้วยการรัดคอประธานบริษัทเพื่อการลงทุนกับพนักงานอีกคนหนึ่ง เมื่อปี 2531 

 

 

 

หลังขโมยเงิน 100 ล้านเยน ทั้งสองฝังฝังร่างเหยื่อและโบกปูนปิดทับบนภูเขาในเมืองเกียวโต ศาลพิพากษาประหารชีวิตทั้งคู่ในปี 2547 และการประหารด้วยการแขวนคอมีขึ้นที่ทัณฑสถานโอซากา ในนครโอซากา เช้าวันนี้ 

ญี่ปุ่นเป็นประเทศพัฒนาแล้วไม่กี่ประเทศที่ยังประหารอยู่ และปัจจุบัน ยังมีนักโทษรอประหารอีกกว่า 100 คน ขณะที่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโทษนี้ แม้มีเสียงวิจารณ์จากนานาชาติโดยเฉพาะจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน 

นายยามาชิตะ ซึ่งเป็นอดีตอัยการ กล่าว่า เขาไฟเขียวประหารหลังไตร่ตรองรอบคอบแล้ว เพราะนี่เป็นอาชญากรรมน่ารังเกียจเขย่าขวัญสังคม และเป็นการแสดงท่าทีชัดเจนว่าญี่ปุ่นจะไม่เลิกโทษประหารในเร็ววันนี้แน่นอน

 

 

“อาชญากรรมเลวทรามและน่ารังเกียจ ไม่อาจเลี่ยงโทษประหารได้ ผมเชื่อว่าไม่เหมาะสมนักที่จะยกเลิกโทษประหาร" รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่นกล่าว 

 

ญี่ปุ่นประหารเรียบ"โอมชินริเกียว"13 รายในเดือนเดียว

 

เมื่อเดือนกรกฏาคม ญี่ปุ่นประหารเจ้าลัทธิโอมชินริเกียวและสาวก 13 คน ที่มีส่วนร่วมโจมตีผู้คนด้วยแก๊สทำลายประสาทซาริน สถานีรถไฟใต้ดินโตเกียวเมื่อปี 2538

เมื่อประหารนักโทษอีก 2 คนในวันนี้ ทำให้จำนวนนักโทษถูกประหาร ในปี 2561 เพิ่มเป็น 15 คน เป็นสถิติสูงที่สุดเท่ากับปี 2551