ข่าว

'รังสิมันต์ โรม'ขึ้นศาลทหาร ปฏิเสธขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รังสิมันต์ โรม"ขึ้นศาลทหารปฏิเสธขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ย้ำจะทำกิจกรรมให้มีการเลือกตั้งต่อเนื่อง เชื่อจะมีการเลือกตั้งจริงก็ต่อเมื่อนายกฯ ดูด ส.ส.ได้ครบเสียก่อน

 

               รังสิมันต์ โรม ขึ้นศาลทหารนัดถามคำให้การ พร้อมสู้โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/58 ที่ มข. เมื่อปี 2559 และย้ำจะทำกิจกรรมให้มีการเลือกตั้งต่อเนื่อง เชื่อจะมีการเลือกตั้งจริงก็ต่อเมื่อนายกฯ ดูด ส.ส.ได้ครบ

 

               เวลา 15.00 น. วันที่ 7 พ.ค.2561 ที่ศาล มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จังหวัดขอนแก่น นายรังสิมันต์ โรม ได้เดินทางมาพร้อมกับนายพัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตามนัดถามให้การของศาล คดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จากการจัดกิจกรรมพูดเพื่อเสรีภาพรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน ที่อาคารจตุรมุข อุทยานเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2559

 

 

'รังสิมันต์ โรม'ขึ้นศาลทหาร ปฏิเสธขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.

 

 

               นายรังสิมันต์ โรม เปิดเผยว่า วันนี้มาให้การโดยปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งข้อกล่าวหาหลักๆ ก็คือคำสั่งที่ 3/58 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งตนก็ให้การปฏิเสธ และจะให้การปฏิเสธถึงที่สุด ยืนยันว่าวันนั้นไปรวมตัวกันเสวนา ก็ต้องแยกให้ชัดว่าระหว่างเสวนากับการชุมนุมทางการเมืองมันไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว เพราะการเสวนานั้นมันมีจุดประสงค์ เพื่อให้ความรู้กับประชาชน ในขณะที่การต่อสู้ทางการเมืองมันเป็นเรื่องที่แต่ละคนมารวมตัวกันเพราะมีเจตจำนงตัวเดียวกัน

 

               “สิ่งที่ผมต้องเน้นย้ำซึ่งเรายังไม่ได้ใส่ในคำให้การคือ ความตั้งใจ ที่อยากจะใส่ในคำให้การคือ 1.ศาลทหารไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ ไม่ใช่เหตุผลอะไรเลย เป็นเหตุผลง่ายๆ คือ ผมไม่ใช่ทหาร ผมเป็นแค่เพียงนายรังสิมันต์ โรม ดังนั้นศาลทหาร ย่อมไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดี และเดี๋ยวจะมีการแก้ไขคำให้การตรงนี้เพิ่มเติมลงไป และจะมีการรวมคดี ทางโจทก์ทางพนักงานอัยการศาลทหารได้มีการยื่นขอรวมคดี กับของไผ่ ดาวดินและเพื่อน เพื่อให้คดีนั้นง่ายขึ้น ซึ่งนัดต่อไปจะเป็นวันที่ 5 กันยายน 2561 ซึ่งผมเข้าใจว่าวันนั้นจะมีแค่เพียงศาลจะสั่งรวมหรือไม่รวมซึ่งยังจะมีนัดต่อไปอีก ผมคิดว่ากว่าจะเสร็จผมคิดว่าคงจะมีเลือกตั้งพอดี”นายรังสิมันต์ กล่าว 


             นายรังสิมันต์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งด้วยว่า คิดว่าเจตนาของรัฐประหารตั้งแต่ต้น ก็คือการทำอย่างไรให้คนเลิกเลือกตระกูลชินวัตร เลิกเลือกเพื่อไทย การดูด ส.ส. เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เรื่องนี้คือทำอย่างไรให้ตระกูลชินวัตร ไม่สามารถกลับมาการเมืองได้ เพราะเชื่อว่าการดูด ส.ส.จะทำให้ชนะเลือกตั้งในพื้นที่นั้นๆ ดังนั้นตนคิดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นต่อเมื่อทาง คสช. เห็นว่ามีความพร้อมจึงจะเลือกตั้ง โดยเฉพาะเมื่อเลือกตั้งต้องได้ที่นั่ง เป้าก็คงไม่ต่ำกว่า 125 เพราะตอนนี้ คสช.มี สว.อยู่ในมือแล้ว 250

 

 

'รังสิมันต์ โรม'ขึ้นศาลทหาร ปฏิเสธขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.

 

 

               ไม่ได้เห็นแผน ไม่ได้เห็นอะไรหลังจากมีการเลื่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ออกมาเป็นเดือนกุมภาพันธ์ ถามว่ากุมภาพันธ์ มาจากไหน มาจากกลุ่มคนอยากเลือกตั้งออกมาชุมนุม ทางพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมาเลื่อน ตอนนี้ผมคิดว่ามันไม่มีแผนอะไร แล้วเราก็ไม่สามารถการันตีได้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากยังไม่มีการกำหนดวัน ตนคิดว่าตัวแปรสำคัญก็คืออยู่ที่การดูด ส.ส. ของทางพลเอกประยุทธ์ ว่าดูดได้มากเพียงใดและถ้าเกิดดูดไปแล้วมีความเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน เรื่องของตัวบุคลากร ตนเชื่อว่าวันนั้นถึงจะได้เห็นการเลือกตั้ง

 

               "ผมเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ ตระหนักดีว่าท่านไม่สามารถยืนได้ตลอดไป มันจะต้องมีการเลือกตั้ง ไม่สามารถยื้อได้ตลอดไป เพราะไม่มีความชอบธรรม มีคนออกมาต่อต้าน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ผมเป็นห่วงประเทศไทย ผมไม่อยากให้ประเทศไทยเราจมอยู่กับความสิ้นหวังขนาดนี้ เพราะประเทศอื่นก็ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว"นายรังสิมันต์ กล่าว และว่า 

 

 

'รังสิมันต์ โรม'ขึ้นศาลทหาร ปฏิเสธขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.

 

 

               อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าคนจะมาลงสมัคร ส.ส. ส่วนใหญ่ก็จะคนจากตระกูลดังๆ เช่น สะสมทรัพย์ คุณปลื้ม และก็กลุ่มต่างๆ ที่พรรคทหารจะต้องพึ่ง ไม่มีแค่พรรคทหารพรรคเดียว ต้องมีหลายพรรคกระจายความเสี่ยง เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ ซึ่งถึงที่สุดแล้วเราก็ต้องจับตาดู มันอาจจะไม่ได้แค่พลเอกประยุทธ์ พรรคของพลเอกประยุทธ์ได้ 125 เสียง อาจจะหมายถึงพรรคขนาดกลางที่จะต้องมาสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เพื่อแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรีบางตำแหน่ง อันนี้เป็นเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้น การแลกตำแหน่งรัฐมนตรีกับจำนวน ส.ส.ที่นั่ง

 

               เพียงแต่ถามว่า คำถามคือตกลงเราต้องการการเมืองแบบนี้หรือ พลเอกประยุทธ์ อาจจะบอกว่านี่คือเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นในสังคม ถามว่านี่คือสิ่งที่เราต้องการของการเมือง การปฏิรูปการเมืองที่เราพูดกันมาตั้งแต่ 4 ปีแล้ว เราจะปฏิรูป คือสิ่งที่เราต้องการใช่ไหม เราควรกลับไปตั้งคำถามในเรื่องนี้ ส่วนกิจกรรมจะยังดำเนินต่อไป คือวันที่ 21-22 พ.ค. จะเดินหน้าไปทำเนียบ จะมีการแจ้งให้ทราบในเพจกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย อีกครั้ง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ