'เปรมชัย' พร้อมพวก รวม 4 คน เดินทางมารายงานตัวที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตามนัด หลังครบกำหนดนัดฝากขังครั้งที่ 4
26 มี.ค. 61 เมื่อเวลา 08.50 น. นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวก 4 คน จำเลยในคดี ลักลอบล่าสัตว์ป่าคุ้มครองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา และซากเก้ง ถูกชำแหละถลกหนัง รวมทั้งปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง เครื่องกระสุนจำนวนมาก รวมทั้งอุปกรณ์ในการล่าสัตว์ป่า เดินทางมารายงานตัวตามกำหนดนัดที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ พร้อมด้วยทนายความ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเปรมชัย พร้อมพวกเดินทางไปถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิด้วยรถยนต์ส่วนตัวแลนด์โรเวอร์ สีดำ และรถตู้ฮุนได สีขาว เมื่อทั้งหมดมาถึงศาลโดยมีเจ้าหน้าที่มาแจ้งให้ทั้งหมดเดินขึ้นไปยังบันไดชั้น 2 ของศาล นายเปรมชัย สีหน้านิ่งเฉย เดินขึ้นเข้าห้องรับทราบข้อกล่าวหา ใช้เวลาเพียง 15 นาที แค่เซ็นชื่อเท่านั้น จากนั้นทั้งหมดก็เดินกลับลงมาจากศาล โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ รวมถึงทนายด้วย โดยบอกเพียงสั้นๆ ว่า มาแค่รายงานตัวเท่านั้น และจะมารายงานตัวอีกครั้งวันที่ 9 เม.ย.
ร.ต.อ.สุมิต บุญนิจ พนักงานสอบสวน กล่าวว่า การสอบปากคำเพิ่มเติมได้ส่งไปให้อัยการทั้งหมดแล้ว
30 มี.ค.ถกคดี “เปรมชัย” ติดสินบนอีกครั้ง ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการ
จากกรณี นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้เข้าเดินทางแจ้งความที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ดำเนินคดีกับ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ในข้อหาพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ได้รับการปล่อยตัว และมีการเรียกสอบปากคำพยานครบถ้วน จนกระทั่งได้มีการเรียกนายเปรมชัย กับ นายยงค์ คนขับรถ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และให้ข้อมูลเพิ่มเติม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดถึงความคืบหน้าการทำสำนวนคดีนายเปรมชัยว่า ในส่วนของ ปปป. เรามั่นใจ 100% ทั้งนี้ สำนวนดังกล่าวเป็นเรื่องของทางผู้กล่าวหาเป็นหลัก เพราะเป็นคนที่ให้การว่า นายเปรมชัย ให้สินบนอย่างไร ซึ่งในครั้งแรกยังไม่ชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็ต้องหาพยานอีกคนให้ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้เห็นถึงความผิดชัดเจนมากขึ้น ความจริงทางตำรวจต้องการพยานที่สามารถออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมของนายนพดล พฤกษะวัน ที่ปรึกษา บ.อิตาเลียนไทย ว่าเป็นผู้กว้างขวางในกรมป่าไม้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบบุคคลใดที่จะยืนยันได้ขนาดนั้น มีเพียงแต่กระแสข่าว ซึ่งจากการสอบปากคำนายวิเชียร ก็ระบุว่า ไม่รู้จักกับนายนพดล เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้อาจจะไม่เรียกใครมาสอบเพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากพยานหลักฐานทั้งหมดที่กำลังสรุปสำนวนส่งทางอัยการ ตนมั่นใจว่า รอบด้านและรัดกุมที่สุดแล้ว และสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดได้ ทั้งนี้ ทางตำรวจ ปปป. จะนัดประชุมอีกครั้งวันที่ 30 มี.ค. นี้ ซึ่งคาดว่าหลังจากประชุมสำนวนจะสามารถสรุปส่งอัยการได้ทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง