ข่าว

ผญบ.-ตร.อุ้มซ้อมชาวบ้านรับทราบข้อกล่าวหา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พ.ต.ท. 1 ในผู้ถูกกล่าวหาร่วมกับ ผญบ.-ผู้ช่วย ผญบ.รวม 4 คน เข้ารับทราบข้อหา ปฏิเสธอุ้มซ้อมชาวบ้าน ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย จะเอาผิดคนฟ้องถึงที่สุด

 

               18 ก.พ. 61  เมื่อเวลา 11.30 น.  นายสมชาย จังพานิช อายุ 43 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย พ.ต.ท.เดชบุญ สุวรรณ สว.สส.สภ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นายสายัณ กันเกา อายุ 56 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ชำแระ และนายเสน่ห์ สระจันทร์ อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้เดินทางมาที่ สภ.โพธาราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังทั้งหมดตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกาย และความผิดตามมาตรา 157 ทั้ง 4 คน ได้ร่วมกันอุ้มชาวบ้านไปซ้อมทำร้ายร่างกาย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงนั้นมีเครื่องสูบน้ำในหมู่บ้านหาย นายสมชายสงสัยว่า นายเอ (นามสมมติ) ลูกบ้าน อายุ 38 ปี ขโมยไป จึงได้อุ้มตัวไปสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ณัชชัชพงศ์ ศศลักษณ์ศนานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.นภดล รุ่งสาคร ผกก.สภ.โพธาราม มาร่วมดูการสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไปกระทำกับชาวบ้าน

               หลังได้ทำการสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง นายสมชายพร้อมพวก ได้ออกมาแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมี พ.ต.ท.เดชบุญ สุวรรณ สว.สส.สภ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เป็นผู้แถลงเหตุการณ์ทั้งหมด และยอมรับว่า แค่ต้องการจะเชิญตัวนายเอมาสอบปากคำ กรณีที่มีเครื่องสูบน้ำหาย และจะขอตรวจปัสสาวะว่ายังยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ เพราะนายเอนั้นเพิ่งออกมาจากสถานบำบัดไม่นาน แต่นายเอขัดขืน ประกอบกับญาติๆ ของนายเอเริ่มมากดดัน จึงได้นำตัวขึ้นรถมา และสอบปากคำในรถ ซึ่งนายเอก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องเครื่องสูบน้ำที่หาย จึงนำตัวนายเอไปทำบันทึกปากคำที่ทำการตำรวจสายตรวจ ต.บ้านสิงห์ เนื่องจากอยู่ใกล้ที่สุด เพราะนายเอนั้นขอไม่เข้าไปที่ สภ.โพธาราม เนื่องจากมีใบแดงอยู่ หลังทำบันทึกก็นำตัวนายเอส่งกลับบ้าน และไม่คิดว่าจะมีการมาฟ้องร้องกัน เพราะยืนยันว่า ไม่ได้มีซ้อมหรือทำร้ายร่างกาย แต่แค่ต้องการเชิญตัวมาสอบถามและปล่อยกลับไปเท่านั้น และทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้ทำหนังสือรายงานไปยังนายอำเภอโพธารามว่ามีการนำตัวชาวบ้านมาสอบปากคำแล้ว จึงไม่ทราบว่านายเอนั้นต้องการอะไร และยินดีที่จะให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจะไม่มีการยอมความหรือไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น และจะให้คดีนี้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ