ข่าว

จี้สคบ.เอาผิดอาญา"กระทะโคเรียคิง"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เกษมสันต์"ร้องผู้ตรวจฯ จี้ สคบ. เอาผิดอาญา "โคเรียคิง" หลังเยียวยาผู้บริโภคล่าช้า

          3 ส.ค.60 นายเกษมสันต์ วีระกุล นักวิชาการอิสระ เข้ายื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายทิฆัมพร ยะลา เจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ชำนาญการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการผู้บริโภค (สคบ.) ที่ล่าช้าผิดปกติ ไม่ดำเนินการเอาผิดทางอาญากับบริษัทวิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้ผลิตกระทะโคเรียคิง ฐานหลอกลวงผู้บริโภค และไม่ดำเนินการออกระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคที่ใช้กระทะดังกล่าวและต้องการจะขอเงินคืน 

           โดยนายเกษมสันต์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง ที่มีนายวีระพงษ์ บุญโญภาส เป็นประธาน ได้มีมติแล้วว่าการโฆษณาขายกระทะดังกล่าวเเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง หรือ  Fake Original Price หลอกลวงผู้บริโภคว่าผิวกระทะมีการเคลือบด้วยวัสดุต่าง ๆ และตั้งราคาขายสูงแล้วลดราคาเพื่อจูงใจให้ซื้อ  สามารถที่จะดำเนินคดีอาญากับบริษัทผู้จำหน่ายฐานหลอกลวงได้

            ขณะที่นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการสคบ. ก็ให้คำยืนยันว่าในส่วนของการเยียวยาผู้บริโภคสคบ. สามารถออกระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกได้ โดยเป็นการให้ประชาชนที่ประสงค์ได้รับเงินคืน แจ้งหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนแล้วทางสคบ.จะทำการรวบรวมเพื่อนำส่งให้กับบริษัทผู้ผลิตซึ่งก็จะมีต้นขั้วว่าใครซื้อบ้าง จำนวนเท่าไร แล้วรับเงินเป็นก้อนมา จากนั้นให้ทางเครือข่ายภาคประชาชนที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ไปตั้งจุดรับกระทะ เมื่อประชาชนมานำบัตรประชาชนมาแสดงตน ก็จ่ายเงินคืนให้ แต่พบว่าจนถึงปัจจุบันสคบ.ก็ยังไม่มีการดำเนินการออกระเบียบตามที่รับปากไว้

            โดยเมื่อตนไปสอบถามก็เลี่ยงว่า ให้ตนไปดำเนินการยกร่างเป็นระเบียบมาเลย และขณะนี้ทางบริษัทผู้ผลิตกระทะรายนี้ก็เริ่มที่จะโฆษณาขายกระทะอีกครั้ง โดยเปลี่ยนจุดขายใหม่ อ้างว่ากระทะนี้ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย และคดีต่าง ๆ ก็จบแล้ว รวมทั้งยังทราบว่ามีการโทรศัพท์ไปเชิญชวนลูกค้ารายเก่า ๆ ว่าถ้าซื้อก็จะลดราคาให้เป็นพิเศษอีกด้วย จึงเห็นว่า หากเรื่องนี้ไม่มีการเร่งดำเนินการหรือดำเนินการล่าช้าไปกว่านี้ก็จะมีผู้บริโภคได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกและอาจกลายเป็นช่องให้บริษัทอื่นใช้จูงใจผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าด้วยวิธีการลักษณะนี้ 

           "กรณีนี้ถือเป็นเรื่องการหลอกลวงผู้บริโภคที่ชัดเจนที่สุด ถ้ายังเอาผิดไม่ได้ก็จบ ไม่ต้องไปดำเนินกับกรณีอื่น ๆ ซึ่งทางผมและสมาคมผู้บริโภคพบอีกเป็นจำนวนมาก และพร้อมที่จะดำเนินการกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้ลักษณะการขายเช่นเดียวกับกรณีนี้  หากรัฐเอาผิดเรื่องนี้ได้อย่างจริงจัง" 

               
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ