ตราบาปตำรวจชั่ว : เลียบค่าย โดยช้างพลาย
ทุกวันนี้แทบไม่น่าเชื่อว่าการทำงานของ "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" บางนาย ยังคงเลือกใช้วิธีแบบโบราณกระทำต่อ "ผู้ต้องสงสัย" และหรือ "ผู้ถูกกล่าวหา" กระทำความผิดกฎหมายอาญา
ทุบตีซ้อมทารุณกรรมทุกรูปแบบให้รับสารภาพ
กรณีของ "แม่ค้าไก่ทอด" ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับ "ปวีณา หงสกุล" ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี อ้างถูกตำรวจนอกเครื่องแบบ 4-6 นายสังกัด "กก.สส.บก.น.1" บุกเข้าในบ้านแล้วอุ้มซ้อมทำร้ายร่างกาย
บังคับให้รับสารภาพว่าค้ายาเสพติด
เรื่องที่เกิดขึ้น "ผู้เสียหาย" ย่อมรู้แก่ใจว่าตนเองเกี่ยวข้องพัวพันกับยาเสพติดหรือไม่ ส่วน "นักสืบสวน" บางนายของกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 1 ย่อมรู้แก่ใจเช่นเดียวกันว่าได้กระทำตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือเปล่า
การตรวจสอบข้อเท็จจริงของ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 เชื่อว่าไม่นานคงได้ข้อสรุปที่อาจมีแนวโน้มว่าเป็นการ "แก้เกี้ยว" ของผู้เสียหายที่ถูกกล่าวหาในคดีอาญา
ตรงกันข้ามนักสืบสวนบางหน่วยงานยังส่ายหัวในพฤติกรรมและพฤติการณ์ของ "คนสีเดียวกัน" บางนายของกองสืบสวนแห่งนี้ทำนองว่าผีสางดูกันออก
สนทนากันสนุกปากกรณีของแม่ค้าไก่ทอดไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ "ชายต่างชาติผิวดำ" ยังถูกรุมกระทืบแถว ถ.ข้าวสาร จนสะบักสะบอมเพราะความลุแก่อำนาจ
นอกจากนี้เคยมีผู้ปกครองร้องเรียน "ลูกชาย" สูดดมสารระเหยบริเวณชุมชนอาคารสงเคราะห์ เขตดุสิต แต่ถูกนักสืบสวนบางนายหยิบกาวเทใส่มือแล้วจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บ
ตั้งข้อสังเกตแล้วสงสัยว่าเหตุใด "ผู้บังคับบัญชา" ไม่รู้เรื่องที่ลูกน้องก่อกรรมทำเข็ญไว้ หรืออาจเป็นเพราะ "แม่บ้านกองสืบ" คนดังคอยคุ้มกะลาหัว ช่วยเคลียร์ผู้เป็นนายแทบทุกครั้ง
ตั้งข้อสังเกตว่า "นักสืบสวน" ที่ถูกกล่าวอ้าง หากพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกหลาน ถูกกระทำด้วยความรุนแรงบังคับให้รับสารภาพยัดเยียดข้อกล่าวหา
มีความรู้สึกเป็นอย่างไร ?
เช่นเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับ "วัยรุ่นชาย" อายุ 16 ปี นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี ถูกชายฉกรรจ์อ้างตนเป็น "เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส." ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส บังคับให้รับสารภาพค้ายาเสพติด
เรื่องทั้งหมดเป็นตราบาปของตำรวจชั่วแล้วใครจะเป็นผู้ให้ความยุติธรรมกับเหยื่อ!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง