
ครอบครัว"ผู้ถูกประหาร" ร่ำไห้! ไม่มีโอกาสร่ำลา (คลิป)
ครอบครัวผู้ถูกประหารชีวิตร่ำไห้ ไม่มีโอกาสได้สั่งเสียร่ำลา ก่อนจากกันตลอดชีวิต เสียใจที่เป็นศพแรกในรอบ 9 ปีเผยก่อนตายส่งจดหมายขอเงิน-วุฒิการศึกษากลับใจเรียนม.6
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2561 ที่จังหวัดตรัง หลังจากที่กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารนักโทษเด็ดขาด นายธีรศักดิ์ หรือ มิ๊ก หลงจิ อายุ 19 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 7 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง ผู้ต้องหาฆ่านายดนุเดช สุขมาก อายุ 17ปี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนมัธยมวัดควนวิเศษมูลนิธิ อ.เมือง จ.ตรังอย่างทารุณโหดร้าย เพื่อชิงทรัพย์ เหตุเกิดภายในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 95 (เขาแปะช้อย) เทศบาลนครตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 หลังกรมราชทัณฑ์ประหารชีวิต นายธีรศักดิ์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญกระทบต่อจิตใจต่อพ่อแม่ พี่น้องและครอบครัวนายดนุเดช เป็นอย่างมาก
เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 175 หมู่ 7 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านนายธีรศักดิ์ หรือ มิ๊ก หลงจิ อายุ 19 ปี นักโทษเด็ดขาด คดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณ ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินประหารด้วยการฉีดยา เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 15.00 น. ซึ่งมารดา ได้เดินทางไปรับศพที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านเกิด
คาดจะเดินทางถึงจังหวัดตรังในเวลาประมาณ19.00น.โดยบรรยากาศที่บ้านพบว่า มีญาติพี่น้องมารอรับศพเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เหลือก็กำลังทยอยเดินทางมาสมทบ พร้อมกับมีการจัดเตรียมเต้นท์ โต๊ะ และอาหารไว้รอรับญาติที่จะเดินทางมาร่วมประกอบพิธีศพในค่ำวันนี้ ทั้งหมดอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ
ด้านนางสาวขนิษตา หลงจิ อายุ 20ปี น้องสาวของนายธีรศักดิ์กล่าวว่าทางครอบครัวแม้จะทำใจมาตลอดเพราะศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ก็ตัดสินประหารชีวิต แต่เสียใจและทำใจไม่ได้เพราะว่าในวันที่ศาลตัดสินประหารชีวิตและสั่งประหารชีวิตเลยนั้น ไม่ได้แจ้งญาติให้ไปดูใจหรือร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย และเสียใจว่ามีการยกเลิกการประหารชีวิตไปแล้ว แต่พี่ชายมาถูกประหารชีวิตเป็นรายแรกในรอบ9ปี
"เดิมครอบครัวตั้งใจจะเดินทางไปเยี่ยมอยู่แล้วในวันนี้(19มิ.ย.2561) เนื่องจากพี่ชายส่งจดหมายมาขอเงินจำนวน2,000บาท พร้อมวุฒิการศึกษา และทางพี่สาวก็ไปส่งให้แล้ว"นางสาวขนิษตา กล่าว
นางสาวจุฑามาศ กล่าวอีกว่า รู้สึกรับไม่ได้ มันสะเทือนใจจริงๆกับเรื่องนี้ ซึ่งไม่สมควรที่จะโดนเขาเป็นคนแรก อย่างเช่นคดีเปรี้ยวฆ่าหั่นศพสมควรที่จะโดนก่อน ซึ่งพี่ของตนเองไม่ได้โดนคดีร้ายแรงอะไรมาก แต่ทำไมต้องเป็นคนแรกที่โดนประหาร และเหมือนที่เขาบอกว่าหยุดประหารไปแล้ว แต่ทำไมเพิ่งมาเริ่มกับพี่ของตนเองเป็นคนแรกด้วย ซึ่งตนเองไม่เข้าใจและก็ไม่ได้มีการบอกล่วงหน้าด้วยว่าจะโดนโทษประหาร
"ซึ่งที่จริงการประหารจะต้องบอกญาติและขึ้นศาลอีกครั้งญาติจะได้สั่งเสีย และทางพี่ของตนก็ยังส่งจดหมายมาให้ทุกครั้งบอกว่าสบายดีไหมอยู่ทางนั้น ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงเขาสบายดี ฝากช่วยดูแลแม่และดูแลลูกด้วย ขอให้ส่งเอกสารมาว่าจะไปเรียนต่อให้จบ ม.6เพราะอยากกลับตัวกลับใจ เมื่อวานตนเองก็ไปส่งให้รวมกับจดหมายพร้อมเงิน2พันบาท ก็ไปส่งให้พี่ของตนเอง" นางสาวจุฑามาศ กล่าว
นางสาวจุฑามาศ กล่าวอีกว่า แต่เมื่อวานทางกทม.ตอนบ่ายแจ้งมาว่าให้แม่ของตนเองมารับศพของลูกชายได้เลยพรุ่งนี้เช้า แม่ก็ตกใจร้องไห้รับไม่ได้ และแม่ได้ขึ้นเครื่องไปเมื่อวาน(18มิ.ย.2561)ตอน6โมงเย็น เขาได้สั่งเสียกับลูกชายกับเมียคนแรก เขาฝากว่าช่วยดูแลลูกให้ดีด้วยน่ะเขาไม่อยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ส่วนเมียก็ยกโทษให้ ซึ่งนายธีรศักดิ์ มีแฟน2คน คนเก่ามีลูก2คน คนใหม่มีลูกด้วยกัน1คน คนโตอยู่ป.1คนน้องอยู่อนุบาล"
นางสาวจุฑามาศ หลงจิ อายุ27ปี พี่สาว กล่าวว่า ตนเองยังทำใจไม่ได้ ซึ่งมันไม่ยุติธรรมทำไมต้องเป็นเขาคนแรกด้วย และเขาไม่ได้บอกล่วงหน้ากับญาติ มาบอกตอนที่จะประหารซึ่งยังไม่ได้สั่งเสียกับญาติเลย สะเทือนใจจริงๆหากบอกล่วงหน้าจะได้ขึ้นไปดูใจครั้งสุดท้าย หากทางกรมราชทัณฑ์ได้แจ้งล่วงหน้าบ้างทางครอบครัวก็จะขึ้นไปดูใจครั้งสุดท้าย
นางสาวจุฑามาศ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าแดนประหารน้องชายได้โทรศัพท์มาหาแม่ แต่แม่ไม่ได้รับสาย จึงได้โทรศัพท์ไปลาภรรยาคนแรก พร้อมกับสั่งเสียว่า จะไม่อยู่แล้ว ขอให้ดูแลลูก ดูแลครอบครัว ดูแลแม่ด้วย
นางสาวจุฑามาศ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ น้องชายพยายามทำตัวเป็นนักโทษที่ดี จากนักโทษชั้นเลวมาก มาเป็นนักโทษชั้นเลวแล้ว และบอกว่าจะพยายามทำตัวดีๆ เพื่อจะได้ยกระดับเป็นนักโทษชั้นกลาง และชั้นดี ชั้นดีเยี่ยมต่อไป เพื่อจะได้มีอากาสย้ายกลับมาอยู่เรือนจำใกล้บ้าน จะได้ให้คนในครอบครัวไปเยี่ยม และหากมีโอกาสพ้นโทษจะได้กลับออกมาทำงานเลี้ยงส่งเสียลูกเรียนหนังสือ
สำหรับคดีดังกล่าว ในวันเกิดเหตุ ขณะที่ นายดนุเดช สุขมาก อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมัธยมวัดควนวิเศษมูลนิธิ ผู้ตาย พร้อมด้วยแฟนสาว นักเรียนชั้น ม.5 ต่างสถาบัน ได้ชวนกันมานั่งเล่นที่ภายในสวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินท์ 95 ระหว่างนั้น นายธีระศักดิ์ พร้อมกับพวก 2 คน ซึ่งขับขี่รถ จยย.ซ้อนท้ายมาด้วยกัน เมื่อเห็นผู้ตายนั่งอยู่กับแฟนสาว ก็ลงจากรถเดินตรงเข้ามาใช้วาจาข่มขู่รีดไถเงิน
แต่เมื่อผู้ตายขัดขืนไม่ยอมให้ จึงได้ใช้ไม้ทุบตี ตนผู้ตายต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดออกไปยังทางศาลาฝั่งขาออก และถูก นายธีรศักดิ์ กับพวก ไล่ตามมาจนทัน แล้วลงมือใช้อาวุธมีดรุมแทงผู้ตายทั้งร่างจนพรุนนับ 10 แผล ก่อนล้วงเอากระเป๋าสตางค์ ซึ่งมีเงินสด จำนวน 2,000 กว่าบาท และโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย หลบหนี และถูกจับกุมในเวลาต่อมา จนกระทั่งถูกประหารชีวิตเป็นรายแรกในรอบ 9 ปี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประหาร ! !นักโทษ "ฆ่าชิงมือถือ"