
ไขความลับคิดเร็ว คิดช้า กับการทำงานของ"ระบบประสาท”
ชวนไขความลับพฤติกรรมการคิดและ“ตัดสินใจ”ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการคิดเร็วคิดช้า ที่ล้วนเกิดจาก “ระบบประสาท” จากข้อมูลนักจิตวิทยารางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์มาบอกต่อ
รู้ไหมว่าทำไมมนุษย์จึงมี “ความบกพร่อง” ของระบบการตัดสินใจ แม้จะคิดอย่างถี่ถ้วนมีเหตุผลทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังผิดพลาดได้ และทำไมบางครั้งจึงคิดเร็วคิดช้าโดยตัวเองก็ไม่ทันสังเกต ..เรื่องนี้มีคำเฉลยจากข้อมูลของ Daniel Kahneman “บิดาแห่งเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม” นักจิตวิทยาเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ผู้เขียนหนังสือชื่อว่า Thinking fast and slow ที่ได้อธิบายเรื่องยากๆ ของความคิดมนุษย์โดยสรุปจากการศึกษาวิจัยมา 40 ปีว่า
ระบบประสาทของมนุษย์สามารถแยกเป็น 2 ระบบ นั่นคือ
1.ระบบคิดเร็ว (System 1) เรียกว่าคิดแบบ Heuristic (Human) หมายถึง ระบบการคิดแก้ปัญหาหรือตัดสินใจ เป็นวิธีลัดทางความคิด โดยเพ่งความสนใจไปยังส่วนหนึ่งของปัญหาที่ซับซ้อนแล้วไม่ใส่ใจส่วนอื่นๆ จึงทำให้คนเรามักคิดอย่างรวดเร็ว รวบรัด อัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ จิตใต้สำนึก ทำให้ความน่าเชื่อถือต่ำ นำไปสู่ความผิดพลาด ซึ่งอาจจะเป็นความผิดพลาดแบบที่เป็นไปได้ มีความสมเหตุสมผล ซึ่งส่วนใหญ่การคิดเร็วที่ทำให้มีความผิดพลาด มักเกิดจากความลำเอียง(bias) หรือเรามีพฤติกรรมและความคิดที่เอนเอียงไปสิ่งที่เราเข้าใจว่าใช่ ว่าถูกต้อง เช่น เราจะเดินช้าลงอย่างไม่รู้สึกตัว เมื่อกำลังนึกถึงผู้สูงอายุ เราสนใจและตัดสินใจซื้อสินค้าลดราคา 50% ได้ง่ายทันที ทั้งที่ราคาปกติคือราคาที่ตั้งเผื่อไว้ (ทั้งที่เราก็รู้หรือรู้ก็ยังรู้สึกเองว่าได้ของถูก) ซึ่งระบบการคิดเร็ว เป็นระบบอัตโนมัติที่ไม่ต้องใช้พลังงานในการคิดใดๆ และมักจะไม่สามารถต่อต้านได้ เช่น เห็นหน้าคนแล้วมองว่าสวย เห็นตัวอักษรแล้วคิดเป็นคำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 5 "อาหาร" พัฒนาสุขภาพสมอง
- ชวนพ่อแม่ปลูกฝัง 5 Self พัฒนาทักษะลูก“ฉลาด”เรียนรู้
- สมองเด็กผู้หญิงกับผู้ชาย ต่างกันไหมนะ?
2. ระบบคิดช้า (System 2) เป็นการคิดที่ผ่าน Cognitive คือผ่านประสบการณ์ ความรู้ ความจำพร้อมใช้งาน (Working memory) การหาเหตุผล ความเข้าใจ ใช้การคำนวณ และตระหนักรู้ถึงการตัดสินใจในแต่ละครั้ง ซึ่งขั้นตอนการคิดในระบบนี้ของมนุษย์ทำได้ทั้งในระดับจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ทั้งเรื่องที่เป็นรูปธรรม นามธรรม ทำให้เวลาเราคิดช้าเราจะประมวลสิ่งต่างๆร่วมกันนาน และใช้เวลาไตร่ตรอง แต่แม้จะคิดนานคิดช้า แต่หากเคยมีความจำหรือประสบการณ์มา ก็ทำให้การคิดช้ามีปัญหาหรือผิดพลาดได้ เช่น เราจะเชื่อว่าความคิดจากคนที่ดูน่าเชื่อถือหรือคนที่เราชอบมักมีน้ำหนักมากกว่าคนอื่น หรือ เราอาจเชื่อเรื่องที่โกหกได้ ถ้าได้ยินบ่อยๆ เป็นประจำ
ระบบการคิดช้า เป็นระบบที่ต้องทำการจัดสรรพลังงานในการคิดต่างๆ เพื่อนำมาใช้นึก คิด วิเคราะห์ สังเกต ตัดสินใจ และสามารถโปรแกรมให้ควบคุมการคิดเร็วได้ด้วย เช่น คอยเตือนตัวเองให้มองซ้ายขวาก่อนข้ามถนน หรือควบคุมให้พูดจาสุภาพต่อหน้าผู้ใหญ่ รวมถึงการทำงานที่ต้องคิดวิเคราะห์หรือคำนวณ ก็จำเป็นที่จะต้องพึงระบบการคิดช้ามาใช้ แต่การคิดช้าก็มีขีดจำกัดที่ไม่สามารถคิดละเอียดพร้อมกันหลายเรื่องได้ เช่น ไม่สามารถขับรถและคำนวณเลขยากๆ ในเวลาเดียวกัน เป็นต้น
คนเรามัก “คิดเร็ว”มากกว่า “คิดช้า” ...นั่นเพราะสมองของเราถูกโปรแกรมมาให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด เหนื่อยน้อยที่สุด กระบวนการคิดเร็วจึงถูกใช้งานมากกว่าการคิดช้า และส่วนใหญ่จะใช้งานระบบคิดเร็วตลอดเวลาทั้งการมอง การเดิน การได้ยิน การขับรถ แต่การคิดเร็วก็ทำให้เกิดความผิดพลาดและตัดสินใจด้วยอคติได้ ในขณะที่คนเราจะใช้การคิดช้าเฉพาะเรื่องสำคัญ หรือมีหน้าที่คอยย้อนมาตรวจสอบว่าเวลาที่คิดเร็วๆ นั้นถูกต้องแล้วหรือไม่ นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าเวลามีเหตุการณ์สำคัญอะไรมากๆ มีภาวะกดดันหรือเหนื่อย สมองและระบบประสาทเราจะทำงานให้คิดหรือตัดสินใจเร็วออกไปทันที ระบบการคิดช้าจึงไม่ได้ใช้งาน ทำให้เกิดความผิดพลาดหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้นอกจากนี้ยังพบว่าคนที่อารมณ์ดีมักจะปล่อยให้ระบบคิดเร็วได้ทำงานมากกว่าคนที่กำลังอารมณ์เสีย กำลังกลัวหรือกำลังเศร้าโศกอยู่ เพราะเวลาอารมณ์ดีเรามักจะไม่ระมัดระวัง ไม่คิดถี่ถ้วน แต่หากกำลังกลัวจะมีสัญชาตญาณของการอยู่รอดทำให้ระมัดระวังตัวมากกว่านั่นเอง
...ฉะนั้นมนุษย์เราจึงต้องเตือนตัวเองและมีสติให้มากๆ ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะไหน ต้องคิดให้ดีๆ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในชีวิตได้นะจ๊ะ...
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมสุขภาพจิต, PANASM.com