สมัยนี้เขาแข่งเรื่องความคิดสร้างสรรค์หรือยังไงนะ เดี๋ยวนี้โครงการต่าง ๆ อย่างท่าเรือสวนลอยน้ำนี้เกิดขึ้นมาจนเรา เกิดคำถามว่า "เขาคิดกันได้อย่างไร?"
รู้หรือไม่ว่าเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ค หรือ กรุงโคเปนเฮเกน ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดชายฝั่งทะเล มีตำนานเล่าว่า เมื่อกำเนิด เกฟิออน และ ลูกชายทั้ง 4 ที่แปลงกายเป็นวัว ครอบครัวนี้เองได้ช่วย กันพลิกแผ่นดินขึ้นมาจากพื้นที่ทะเล แต่ไม่ว่าเพราะตำนานนี้จะจริงหรือไม่ก็ตาม พื้นที่ทะเลมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาผังเมืองโคเปนเฮเกนอย่างมาก เนื่องด้วยปัญหาภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุกปี ทำให้ผู้เกี่ยวข้องในเมืองนี้ต้องต้องหาวิธีจัดการแก้ปัญหาน้ำเพื่อประชาชนกว่า 500,000 คนในประเทศเพื่อที่หลีกเลี่ยงการต้องเผชิญกับ “เมืองใต้น้ำ”
ขอเกริ่นหน่อย
คำว่า ‘Parkipelago’ มาจาก
Park = สวน
Archipelago = หมู่เกาะ
ภายใต้แนวคิดเมืองบนเกาะ สวนลอยน้ำ นี้ ทางการกำลังพยายามการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือเก่าโดยใช้น้ำที่ไหลเข้ามาให้เป็นประโยชน์ผ่านการสร้างพื้นที่สันทนาการริมน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้มาพักผ่อนเพลิดเพลิน ไม่ว่าเป็นที่เอาไว้มาแวะพักจากการว่ายน้ำ แวะพักหรือเทียบเรือคายัก ที่นั่งสำหรับตกปลาหรือ แม้แต่มานั่งชิลล์ ๆ ชมวิวบรรยากาศ สูดดมลมน้ำทะเล ถือเป็นที่พักผ่อนที่สร้างสรรค์อีกที่หนึ่งเลยทีเดียว
นอกจากจะให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สันทนาการแล้ว คอนเสป อีกอย่างคือการสร้างสวนลอยน้ำนี้บนแนวคิดด้านความยั่งยืนและความยืดหยุ่น หมายความว่า ไม้ที่ถูกใช้นำมาทำเป็นหมู่เกาะนั้นเป็นไม้เดิมจากท่าเรือนั่นถูกนำกลับมาใช้ใหม่ และความยืดหยุ่นหมายถึง การที่เกาะแห่งนี้ สามารถปรับรูปร่างได้เหมืนตัวต่อเลโก้ ในช่วงหน้าร้อนก็จะสามารถแยกออกเป็น เกาะลอยน้ำพื้นที่เพียง 20 ตรม. และสามารถเคลื่อนย้ายไปตามกระแสน้ำได้หากต้องการ หากเป็นช่วงหน้า หนาวก็สามารถนำ เกาะเล็ก ๆ เหล่านี้มารวมกันไว้เป็นพื้นที่สำหรับ งานดนตรี ทาเลนท์โชว์ (talent show) เทศการอาหาร ต่าง ๆ จัดแฟร์ต่าง ๆ ให้ผู้คนได้มาร่วมสนุกกัน
เมื่อได้เห็นเมืองโคเปนเฮเกนนำปัญหาน้ำมาแก้ไขด้วยวิธีการสร้างพื้นที่สันทนาการ เมืองกรุงเทพอาจจะลองนำแดดที่เรามีมาจัดพื้นที่การอาบแดดชมวิวกลางกรุงเอาไว้ต้อนรับชาวต่างชาติหลังสถานการณ์โควิดนี้ได้เช่นกัน ขออนุญาติฝากไอเดียนี้ไว้ด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก:
https://www.yankodesign.com
https://unsplash.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง