สธ.เผย สั่ง 10 สธจ.ในเขตเศรษฐกิจพิเศษส่งข้อมูลแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ทำงานไป-กลับหรือตามฤดูกาล ตรวจสุขภาพและซื้อประกันสุขภาพ
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียน ทำให้มีการเคลื่อนย้ายประชากรอย่างเสรี โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก กาญจนบุรี ตราด สระแก้ว นครพนม หนองคาย มุกดาหาร นราธิวาส และสงขลา เพราะฉะนั้น การดูแลด้านสุขภาพแรงงานต่างด้าว ต้องมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไป ทั้งการลงทะเบียน การกำหนดสิทธิประโยชน์ การเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการ ระบบการเงินกองทุนหลักประกันตนคนต่างด้าวและแรงงานต่างด้าว เพื่อให้การดูแลเป็นไปตามสิทธิประโยชน์ การบริหารจัดการกองทุนแรงงานต่างด้าว ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551
ดังนั้น เพื่อให้การดูแลสุขภาพแรงงานต่างด้าวครอบคลุมตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้ง 10 จังหวัด ส่งข้อมูลแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาวและกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในลักษณะไป - กลับ หรือตามฤดูกาล ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 ทุกเดือน พร้อมผลการตรวจสุขภาพและการประกันสุขภาพ ซึ่งผู้ที่เข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในสถานบริการของรัฐ และมีการประกันสุขภาพในช่วงระยะเวลาไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่ให้ทำงานในประเทศไทย
รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติให้ สธ.บริหารจัดการแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ในกลุ่มที่มีบัตรสีชมพู และกลุ่มที่มีเอกสารที่ประเทศต้นทางออกให้ โดยจากการตรวจสัญชาติหรือพิสูจน์สัญชาติทุกกลุ่ม รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของแรงงานต่างด้าวที่อายุไม่เกิน 18 ปี มีเอกสารหนังสือเดินทางที่เคยมีใบอนุญาตทำงานแล้ว ระหว่างวันที่ 1 เมษายน-29 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา มีแรงงานต่างด้าว ผู้ติดตามและคนต่างด้าวเข้ารับการตรวจสุขภาพและซื้อบัตรประกันสุขภาพ จำนวน 1,527,204 คน ประกอบด้วย สัญชาติเมียนมา 929,964 คน ลาว 96,558 คน กัมพูชา498,550 คน และสัญชาติอื่นๆ 2,132 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง