Lifestyle

หวนมาเยือนวัดกัลยาณ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หวนมาเยือนวัดกัลยาณ์ : ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศํกดิ์สิริ มีสมสืบ

          อีกครั้งที่ผมได้ไปร่วมกิจกรรมในโครงการ “Think Asean” ครั้งนี้จัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร
 
          “วัดกัลยาณมิตรวรวิหาร” และชุมชนกุฎีทอง
 
          ไม่น่าเชื่อ ผมไม่เคยหวนกลับมาเยือนวัดกัลยาณ์อีกเลยนับตั้งแต่มาครั้งแรกเมื่อ 37 ปีที่แล้ว ครั้งยังเป็นนักศึกษาศิลปะ โดยอาจารย์ผู้สอนวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ เป็นผู้พามา
 
          บรรดาผู้รักการถ่ายภาพ ตากล้องหนุ่มสาวผู้เข้าร่วมโครงการ ลงพื้นที่ถ่ายรูปกันทั้งวัน โดยผมในฐานะแขกรับเชิญให้ไปร้องเพลงขับกล่อมย้อมสุนทรีย์ ตามไปทีหลัง ไปถึงที่นัดหมายในเวลาบ่ายสามโมง
 
          สายตาของคนถ่ายภาพเขามองเห็นรูปทรง เห็นองค์ประกอบผ่านกรอบสี่เหลี่ยม โดยขึ้นอยู่กับความกรุณาของ “แสง” เรื่องราวที่สำแดงผ่านมุมมองจะเป็นที่มีพลังทางสุนทรียภาพมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ “สายตา” ของตากล้องที่จะมองเห็นเหลี่ยมคมพิเศษที่ซุกซ่อนอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง ดวงตาของเขาจะโฟกัสไปที่จุดๆ นั้นก่อนจะปรับโฟกัสเลนส์ แสวงหาหรืออาจต้องรอเวลานาทีทอง
 
          ขณะสายตาของคนเขียนรูป มีความแตกต่างสำคัญตรงที่จิตรกรนั้นมองภาพจากภายในมากกว่าที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
 
          วัดกัลยาณ์ เป็นวัดเก่า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ผู้สร้างคือเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร สร้างเมื่อ พ.ศ.2368 สร้างเสร็จถวายเป็นพระอารามหลวง เมื่อ พ.ศ.2370 โดดเด่นที่อุโบสถรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบจีน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ซุ้มประตูหน้าต่างประดับลายดอกไม้ปูนปั้น หน้าบันปั้นลายดอกไม้ประดับกระเบื้องสี ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมพุทธประวัติ มีพระประธานเป็นพระปางปาลิไลยก์ วัดเดียวในประเทศไทย
 
          สูงเด่นสง่าตระหง่านเห็นได้จากระยะไกล คือ วิหารหลวงพ่อโต ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2380 วางรากฐานโดยไม่ตอกเสาเข็ม ใช้วิธีขุดพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมแล้วใช้ซุงทั้งท่อนเรียงซ้อนกัน 2-3 ชั้น
 
          ประตูหน้าต่างเป็นไม้สักแผ่นเดียว ลายรดน้ำลงทองรูปธรรมบาล
 
          หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง หน้าตัก 11.75 เมตร สูง 15.45 เมตร รัชกาลที่ 4 พระราชทานนาม “พระพุทธไตรรัตนนายก” ชาวจีนเรียก “ซำปอกง” หรือ “ซำปอฮุกกง”
 
          ช่วงเย็นเดินชมชุมชนเก่าร่วมกับ “คนถ่ายรูป” ชมศาลเจ้า “กวนอันก๋ง” และโบสถ์ “แซงตาครู้ซ” เดินตามบาทวิถีเลียบริมน้ำเจ้าพระยา
 
          โบสถ์ “แซงตาครู้ซ” มีตำนาน พระเจ้าตากสินมหาราชพระราชทานที่ดินแก่ชาวโปรตุเกส ซึ่งร่วมมือกับพระองค์ในการศึกกับพม่า (พ.ศ.2310) โบสถ์นี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2313 เป็นโบสถ์ไม้ ต่อมาถูกไฟไหม้ในปี 2376 ภายหลังสร้างเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ผ่านการบูรณะมาจนปัจจุบันเป็นอาคารแบบสถาปัตยกรรมอิตาเลียน
 
          ผมเรียนมาทางจิตรกรรม เลยติดนิสัยชื่นชมรูปทรง แสง สี ดื่มด่ำความงาม ก็เลยพร่องเรื่องการสืบค้นข้อมูลความรู้ วิชาการ (คงเป็นนิสัยส่วนตัวมากกว่า) ช่างถ่ายภาพเขาเดินเร็ว คิดเร็ว ทำเร็ว (ตามประสบการณ์) ส่วนคนเขียนรูปมักจะนั่งอยู่เป็นที่เป็นเวลานาน จนกว่าจะวาดรูปเสร็จ
 
          ได้กลับมาเยือนวัดกัลยาณ์ ก็น่ายินดีแล้ว แม้ไม่ได้วาดรูปเลยสักรูป แต่ก็ได้ถ่ายรูปมาฝากครับ
............................
(หมายเหตุ หวนมาเยือนวัดกัลยาณ์ : ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศํกดิ์สิริ มีสมสืบ)

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ