จบดราม่า ผอ.หวงเก้าอี้ ครูสาวควักเงินส่วนตัว 1,200 บาท ซื้อเก้าอี้ใหม่ ให้ ผอ.รักษาใจแขนขาอ่อนแรง เปิดพฤติกรรมสุดเอือมขอน้ำใจจากชาวบ้าน
จากรณีดราม่า ผอ.หวงเก้าอี้ บนโลกออนไลน์ เกี่ยวกับเรื่องราวของครูสาวรายหนึ่ง ที่ถูก ผอ. โรงเรียนตำหนิเรื่องการนั่งเก้าอี้ ซึ่งอ้างว่าไม่มีครูใครไหนกล้าทำแบบนี้ กระทั่งตัวเองที่เคยเป็นครูมาก่อนก็ไม่เคยทำ การนั่งเก้าอี้ของ ผอ. โรงเรียน เหมือนเป็นการลบหลู่บารมี ทำให้ผอ.รายนี้รู้สึกเสียใจจนถึงขั้น แขนขาอ่อนแรง ซึ่งทำให้ ผอ.รายนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
เปิดใจเล่าดราม่า
ทางด้านของครูสาว ซึ่งเป็นครูสอนระดับชั้นอนุบาลของโรงเรียนได้เปิดใจดเล่าว่า เหตุการณที่เกิดขึ้นคือวันศุกร์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ผอ.ได้นัดคณะครูประเมินเงินเดือน และให้ครูแต่ละคนทำวีทีอาร์มานำเสนอ โดยนัดกัน15.00 น. โดยตนเองเป็นคนที่รวบรวมวีทีอาร์ของครูทุกคน ตนเองก็ได้นำวีทีอาร์มารอเปิดเพื่อนำเสนอจึงไปนั่งเก้าอี้ตัวนั้นซึ่งอยู่ด้านหน้า
โดยห้องนี้เป็นห้องประกันคุณภาพการศึกษา เป็นห้องสำหรับประชุมหรือรับแขก มีจะเก้าอี้ตัวหนึ่งสีดำก็คือเก้าอี้ที่ตนนั่งเพื่อรอเปิดวิทีอาร์ จากนั้น15.24 น. ผอ.ได้ลงมาจากชั้นสองซึ่งเป็นห้องประจำตำแหน่งของผอ. ลงมาชั้น 1 คือห้องประชุม
จากนั้นตนได้ลุกออกจากเก้าอี้ที่กำลังนั่งเซตวีทีอาร์คณะครู และยกเก้าอี้ไปให้ท่านผอ.นั่ง แต่ผอ.บอกไม่นั่ง แต่นั่งเก้าอี้ธรรมดาสีดำแทน เพื่อรับชมวีทีอาร์ หลังจากนั้นบรรยายวีทีอาร์เสร็จประมาณ 17.00 น. ตนเองก็ได้ลาพี่ ๆ ครู และขอตัวกลับบ้าน และบังเอิญเห็นผอ.คุยกับครูคนหนึ่ง มาทราบภายหลังว่าเนื้อหาที่คุยกันมีการตำหนิตนเองว่านั่งเก้าอี้ผอ.
ตอนนั้นกำลังจะถึงบ้าน ยังไม่ทันลงรถ ไลน์กลุ่มโรงเรียนจึงเด้งขึ้น จึงเปิดอ่านปรากฏว่าเห็นข้อความที่ ผอ.ตำหนิ ตามที่ปรากฏในสื่อ ตนเองยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนา และหลังจากอ่านแชทไลน์ก็ได้ขอโทษผอ.ทันที ที่ไม่ทันคิด ไม่ได้ตั้งใจ เก้าอี้ไม่คนนั่งจึงเอามานั่ง ไม่คิดว่าจะทำให้ผอ.ไม่พอใจ
จากนั้นตนเองได้ไลน์ส่วนตัวไปขอโทษอีกครั้ง และวันจันทร์เจอหน้าจะตั้งใจเข้าไปขอโทษอีก แต่ผอ.ไม่ได้อ่านไลน์ที่ตัวเองส่งไป จึงไปเล่าและร้องไห้กับแม่ฟัง จึงแคปไลน์โรงเรียนโพสต์ในไลน์ส่วนตัวว่าตนเองผิดมากขนาดนั้นเลยหรอ ทำให้มีการแชร์ในโซเชียลจำนวนมาก พอเกิดประเด็นในโซเชียล ผอ.จึงแคปหน้าจอของเพจเพจหนึ่งแล้วลงไลน์กลุ่ม และโทรมาหาตนเองประมาณสองสายแต่ตัวเองไม่ได้รับ และไม่ได้โทรกลับ เพราะกลัวว่าจะโดนผอ.ด่า กะว่าจะเข้าไปคุยวันจันทร์ทีเดียว ว่าจะให้รับผิดชอบอย่างไร เพราะตนเองจะไปทำงานอยู่แล้ว
ครูสาว ยอมรับว่าไม่เคยมีปัญหากับผอ. แต่ก็เคยโดนผอ.ตำหนิบ้าง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ คุณครูยอมรับว่าเห็นข่าว เลขาธิการ กพฐ. สั่งย้าย ผอ.แล้ว อย่างน้อยก็โล่งอกว่าวันจันทร์ก็จะปลอดภัย ถ้าผู้ใหญ่ไม่รับทราบ ก็ไม่รู้ว่าชีวิตความเป็นครูของตนเองจะไปอย่างไรต่อ เพราะผอ.ก็เป็นผู้บังคับบัญชา ส่วนตนเองก็เป็นแค่ลูกน้อง ยอมรับดีใจที่ผู้ใหญ่รับทราบ และเห็นในข่าวว่าจะให้ความเป็นธรรม ยืนยันว่าไม่มีเจตนาไปนั่งเก้าอี้ตัวนั้น ที่ตนเองไปนั่งก็เพราะต้องการเปิดวีทีอาร์ ไม่มีเจนตนาไปนั่งเทียบท่านผอ.
คุณครูยอมรับว่า ที่มีผ่านเวลาคณะครูมีเรื่องทุกข์ใจก็จะให้กำลังใจกันตลอด โดยโรงเรียนของตนเป็นโรงเรียนระดับประถามศึกษา มีข้าราชการครู 4 คน ครูอัตราจ้าง1 คน และธุรการ 1 คน ต่างคนต่างให้กำลังใจกันและกัน จากการตรวจสอบ พบว่าครูและผอ.คนดังกล่าว สอนอยู่โรงเรียนบ้านราชธานี ต.ราชธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ให้ ผอ. แล้ว
ขณะนี้ได้ไปซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ให้กับผู้อำนวยการแล้วในราคา 1,200 บาท และเตรียมจะนำไปเปลี่ยนในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ การซื้อเก้าอี้มาครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการประชดประชัน แต่ต้องการแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่ท่าน ผอ. มองว่าตนเองทำผิด และไม่อยากให้ใช้งบของโรงเรียน ซึ่งมีไม่มาก ต้องไปซื้อเก้าอี้มาทดแทนกับสิ่งที่ตนเองนั่งเก้าอี้ตัวนั้นลงไป ขอยืนยันว่าเก้าอี้เจ้าปัญหาที่เกิดเรื่องนั้น ไม่ใช่เก้าอี้ประจำของผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เป็นเก้าอี้ในห้องประกันคุณภาพการศึกษา หรือห้องประชุม ส่วนห้องผู้อำนวยการ และเก้าอี้ประจำตำแหน่ง จะอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงเรียน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน
ศิษย์เก่า ชาวบ้าน เล่าพฤติกรรม ผอ.โรงเรียน
ผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถาม ชาวบ้าน ถึงความเป็นมาของการเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งทุกคนบอกว่าไม่ทราบ และเพิ่งเห็นข่าวทางโซเชียล ในวันนี้ ซึ่งหลายคนต่างก็เปิดดูทางโทรศัพท์และทางคอมพิวเตอร์ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา และมีการพูดถึงพฤติกรรม ของผอ. โรงเรียนนี้ ซึ่งชาวบ้านก็บอกว่า การทำงานก็ยอมรับได้
สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น ก็คือหลังจากพอคนนี้ย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้ เหตุที่ไม่เคยเกิดก็เกิดขึ้น เช่นมีการเรี่ยไรเงิน เรี่ยไรข้าว เพื่อเอาไปใช้ในกิจกรรมบางประการในโรงเรียน ซึ่งชาวบ้านแม้จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ขัดใจ เนื่องจากลูกหลานเรียนอยู่ในโรงเรียน จึงปล่อยเลยตามเลย เรื่อยมา ส่วนการดราม่าเก้าอี้ ก็รับไม่ได้ เพราะเป็นของโรงเรียน ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สินของ ผอ.
ในขณะที่เหตุที่เกิดขึ้น ชาวบ้านและศิษย์เก่า ล้วนต่างพากันไม่ใช่วิจารณ์ว่า ไม่ทราบเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และเมื่อเห็นทางโซเชียลแล้วก็เกิดความไม่สบายใจ เพราะเป็นความขัดแย้งเป็นเหตุเกิดความแตกแยกในกลุ่มครู ผู้สอน กับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นเหตุเล็กๆแค่เรื่องเก้าอี้ ก็ไม่น่าถือเป็นเรื่องจริงจัง แล้ว เป็นเรื่องรุนแรง จนเกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ของครู และโรงเรียนจนถึงขนาดนี้ ซึ่งความจริง มีความเห็นว่า ผู้บริหารไม่น่าจะใช้อารมณ์ กับครูผู้น้อย และน่าจะพูดกันดีๆ ดีกว่าที่จะทำให้เกิด เหตุการณ์ร้าวฉาน จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต โดยยึดติดกับ เรื่องที่น่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ มากจนเกินไป
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวก็ได้พยายามติดต่อไปยัง ผู้บริหารโรงเรียน คือผอ ศศิธร หน่ายครบุรี ทางโทรศัพท์เพื่อขอพบและสอบถามความเป็นไปที่แท้จริง ให้กระจ่าง แต่ปรากฏว่า โทรไป อย่างต่อเนื่องหลายครั้ง แต่ ผู้อำนวยการศศิธร ไม่ยอมรับโทรศัพท์ จึง ไม่สามารถ พบเพื่อถามข้อเท็จจริงได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง