เด่นโซเชียล

สธ. "ฉีดไฟเซอร์" ให้นักเรียน 4 ต.ค.นี้ ติดตามผลข้างเคียงผ่านไลน์ "หมอพร้อม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กางแผนฉีด "ฉีดไฟเซอร์" ให้นักเรียนเข็มแรก 4 ต.ค.นี้ พร้อมติดตามภาวะ "กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ" แนะผู้ปกครองเฝ้าระวังอาการเบื้องต้นต่อเนื่อง 30 วัน

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรค และภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน แถลงความคืบหน้า สำหรับการบริหารจัดการ การฉีดไซเฟอร์ และติดตามอาการ ในการฉีดวัคซีนให้นักเรียนทั่วประเทศ ว่า การฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนทั่วประเทศจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 ตามแผนของกระทรวงสาธารณสุขที่มีการวางไว้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยวัคซีนที่จะใช้สำหรับนักเรียนนั้นจะใช้วัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมด เพราะขณะนี้วัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนตัวเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (อย.) ให้สามารถใช้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12-17 ปี ได้ สำหรับแผนการในการจัดสรรวัคซีนนั้นได้ตั้งเป้าว่าต้องฉีดวัคซีนให้นักเรียนได้ประมาณ 5.4 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีการสำรวจล่าสุด แต่ขณะนี้มีนักเรียนที่แจ้งความประสงค์ผ่านสถานศึกษาเข้ามา ประมาณ 3.6 ล้านคน หรือประมาณ 71% ของนักเรียนทั้งหมด 

 

ส่วนแนวทางหรือแผนในการฉีดวัคซีนแก่นักเรียนนั้นจะฉีดทั้งหมด 2 เข็ม  โดยเข็มที่ 1 จะต้องห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 3-4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามจะต้องฉีดเข็มที่หนึ่งให้ได้อย่างครบถ้วน ระหว่างนั้นหากมีการเปลี่ยนแแปลงรูปแบบการฉีดสามารถแจ้งให้ทราบในช่วงระยะนั้นก็ได้ ทั้งนี้การฉัดวัคซีนเข็ม 1 ให้แก่นักเรียนจะพยายามเร่งดำเนินการให้เสร็จภายเดือนตุลาคมนี้ โดยจะพยายามจัดสรรเวลาการฉีดให้เหลื่อมกัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1พฤศจิกายน 2564  ส่วนเวลาสิ้นสุดในการฉีดวัคซีนแก่เด็กนักเรียนนั้น ยังไม่กำหนด เพราะอาจจะมีกลุ่มตกหล่น หรือคนที่แจ้งความประสงค์มาทีหลัง ดังนั้นจึงยังไม่ได้กำหนดวันสิ้นสุดการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน 

นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนให้นักเรียนอาจจะสร้างความกังวลใจถึงอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้แต่เกิดในอัตราที่ต่ำมาก  ดังนั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับนักเรียน และสร้างความอุ่นใจแก่ผู้ปกครองจึงได้วางแผนการติดตามผลข้างเคียง และประเมินอาการเบื้องต้น โดยจะใช้แนวทางเดียวกับผู้ใหญ่คือ กำหนดระยะเวลาในเฝ้าระวัง 1 วัน 7 วัน และ 30 วัน  หลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว  โดยได้มีการเปิดระบบไลน์หมอพร้อมให้นักเรียนเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมทั้งรายงานอาการหลังจากฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามอาการที่ต้องเฝ้าระวังของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื้อหุ้มหัวใจอักเสบเบื้องต้นที่ผู้ปกครองจะเฝ้าสังเกตุอาการภายหลังจากที่บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้น เบื้องต้นมีดังนี้ แน่นหน้าอกเจ็บหน้าอก หอบเหนื่อยง่าย ใจสั่น หมดสติเป็นลม ดังนั้นเพื่อให้สามารถแยกอาการได้ง่ายขึ้นภายหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วในระยะเวลา 7 วัน ไม่ควรออกกำลังกายหนัก ๆ เพราะจะทำให้สามารถสังเกตอาการได้ง่ายขึ้นในกรณีที่มีอาการผิดปกติ ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติผู้ปกครองสามารถแจ้งโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมเข้ารับการรักษาได้ทันที

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ