เปิดใจ "หนุ่มโชว์หวิว" กับเส้นทางสู่วงการ "Onlyfans" วอนเปิดใจ อย่ารังเกียจ

คมชัดลึกออนไลน์ ต่อสายสัมภาษณ์ 2หนุ่มวงการ Onlyfans เปิดใจการก้าวเข้าสู่วงการ Content 18+ โดยมีรายได้เป็นแรงจูงใจ ให้ตัดสินใจเปลื้องผ้า ขายภาพเปลือย

โดยรายแรก นายเอ(นามสมมุติ) เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เดิมทีมีอาชีพเป็นนายแบบถ่ายแบบ sexy อยู่แล้ว แต่พอพิษ โควิด-19 ทำให้งานลดลง จนแทบไม่มีงาน และต้องการหารายได้เสริมเพื่อซัพพอร์ตครอบครัว จึงลองเช้าสู่วงการ แอคล็อค โดยเริ่มแรก เป็นคนที่เสพสื่อด้านนี้อยู่แล้ว และเห็นรุ่นพี่ทำจึงอยากทำบ้าง จึงเริ่มจากโพสต์ภาพเปลือยลงในทวิตเตอร์ก่อน ผลที่ตามมาคือกระแสตอบรับดีมาก มีคนเข้ามาซัพพอร์ตสนับสนุนจำนวนมาก จึงเริ่มลองเข้าสู่วงการ Onlyfans 

มิถุนายน 2564 เป็นเริ่มแรกที่ได้เปิดแอคล็อค ผ่านมากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา อาชีพเสริมนี้กลายเป็นรายได้หลักรายได้เดียว ที่เลี้ยงชีพ และยังมีพอที่จะส่งให้ครอบครัวเพื่อแบ่งเบาภาระในช่วงวิกฤต   และคิดว่าจะยังคงทำต่อไป เพราะเลือกแล้วว่านี่คืออาชีพของตน 

หลังจากมีระแสข่าวของน้องไข่เน่า รู้สึกกังวลเมือนกันแต่อยากให้สังคมเปิดใจ และทำความเข้าใจผู้ที่ทำอาชีพนี้ "sex เป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องปกติ การทำงานแบบนี้ ไม่ใช่การชอบโชว์ เป็นเรื่องของรสนิยมทางเพศส่วนบุคคล และแต่ละคนก็มีรสนิยมที่แตกต่างกัน ไม่ควรตัดสินใครจากความคิดส่วนตัว" จากที่อยู่ในวงการนี้มา ก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร อยู่ในวงการนี้เช่นกัน ทำไมไม่ทำให้สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย เพื่อที่จะทำให้มันถูกจัดระเบียบได้ง่าย และหากมีการทำให้ถูกระเบียบ มีการจัดเก็บภาษีตนเองก็ยอมที่จะจ่ายภาษีตรงนี้เช่นกัน และอยากให้ได้รับการคุ้มครองเหมือนอาชีพอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าจะลดปัญหาได้หลายเรื่อง หากมีการจัดระบบให้ดีพอ ทุกวันนี้ก็รู้สึกว่า อาชีพเองก็ถูกคุกคามจากสังคมไม่น้อย
 

ขณะที่นักศึกษาหนุ่ม เจ้าของแอคล็อค Onlyfans หน้าใหม่ อีกรายเปิดใจกับทีมข่าวว่า เสียใจที่ถูกคนมองว่า โรคจิต ยอมรับว่า ก่อนจะเข้าสู่วงการนี้ ก็รับไม่ได้กับการถ่ายรูปเปลือย โพสต์ลงในสื่อโซเชียล และมองว่าเป็นโรคจิต แต่ด้วยปัญหาด้านการเงิน ที่มีความจำเป็น จะต้องหารายได้มาเลี้ยงชีพ จึงคิดไตร่ตรองมากมาย นาน 2-3 เดือน  ปรึกษาคนรอบตัว และคิดตกผลึกอยู่นาน คิดไปจนถึงผลที่จะตามมา หากก้าวเข้าสู่อาชีพนี้ จนในที่สุดก็ตัดสินใจเข้าวงการ Content 18+ เมื่อคนในครอบครัวไม่ได้ห้าม คนรอบข้างสนับสนุน และไม่ส่งผลกระทบต่อใคร  จึงตัดสินใจลองเปิดใจ โพสต์ Content แรก ด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ผลที่ตามมาคือ กระแสตอบรับที่ดี และแรงซัพพอร์ตด้านบวก ทำให้ปลดล็อกความรู้สึกที่อึดอัด กล้าที่จะเดินต่อในสาย Content 18+ แต่ยอมรับว่าหลายครั้งที่รู้สึกถอดใจอยากเลิกทำ แต่เพราะต้องการหาเงิน จึงยังต้องทำต่อไป

เจ็บปวดทุกครั้งที่ถูกมองว่าโรคจิต แต่ก็เข้าใจสังคม แต่อยากบอกให้คนในสังคม ที่ยังไม่เปิดรับเรื่องเหล่านี้ว่า "อยากให้เปิดใจสักหน่อย เรื่อง Sex เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่ไม่ได้สร้างเรื่องเดือดร้อน และอยากให้มองเรื่อง sex เป็นเรื่องของความชอบ หรือรสนิยมทางเพศส่วนบุคคล ถ้าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร" ส่วนกรณีที่คนมองว่าเราโรคจิต ที่ทำงานตรงนี้ ส่วนนี้เป็นปัญหาของเค้า ไม่ใช่ปัญหาของเรา เพราะไม่ได้โพสต์ในที่สาธารณะ แฟลตฟอร์มที่ตนเองทำ เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่สาธารณะต้องมีการจ่ายเงินเพื่อเข้ามาในแพลตฟอร์มนี้ เป็นความยินยอมที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย มองว่าเป็นเรื่องของธุรกิจ

ตอนเห็นข่าวน้องไข่เน่า ตกใจมากไม่คิดว่าจะมีการขยายผลทางกฎหมายขนาดนี้ ยอมรับว่ากลัว เนื่องจากเรายังมีภาระมากมาย และถ้าเราโดนจับจะส่งผลกระทบในวงกว้าง จึงระมัดระวังตัวเอง ถอดการโปรโมท ออกจากสื่อออนไลน์ส่วนตัว เพื่อรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน อยากให้อาชีพนี้ถูกทำให้ถูกกฎหมาย เชื่อว่าจะดีกับทุกฝ่าย ทั้งผู้ที่ทำอาชีพนี้เอง เข้าสู่ระบบภาษีจะดีกับทุกฝ่ายจะมีรายได้เข้ารัฐ 

สำหรับกรณีที่มีข่าวชายในเครื่องแบบ ถ่ายคลิปในลักษณะ 18+ ตนเองยังไม่อยากให้ตัดสินไปก่อน เพราะยังไม่รู้แน่ชัดว่า ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นตำรวจจริงก็ต้องผิดวินัยอยู่แล้ว ถ้าตำรวจทำจริงแต่ไม่ได้สวมเครื่องแบบ ก็มองว่าม่ใช่เรื่องผิด เพราะเป็นรสนิยมส่วนบุคคล 

อยากให้เปิดใจกับอาชีพ creator 18+,sexworker,sex creator เพราะเรื่อง sex เป็นเรื่องธรรมชาติ คนเราเกิดมาจาก sex มองให้ sex เป็นเรื่องปกติ เปิดใจที่จะเรียนรู้ แม้จะไม่ชอบ แต่อย่าเกลียดกัน เพราะไม่ได้สร้าความเดือดร้อนให้ใคร

อ่านที่เกี่ยวข้อง

• "ตำรวจไซเบอร์" จ่อฟันอีก "ชายสวมเครื่องแบบ" หากเป็นตำรวจจริงโทษหนัก

•  

  โจ่งครึ่ม "ชายสวมเครื่องแบบ" ชุดสีกากี โชว์หวิว-ชวนเสียวผ่านทวิตฯ หาสมาชิก
• สัมภาษณ์ "บุ๋ม ปนัดดา" เปิดใจปมคดี "น้องไข่เน่า" หลังทำคอนเทนต์แนว 18+
• "เปิ้ล ไอริณ" ค้านอาชีพ Sex Worker เผยโดนแบ่งชนชั้น เจอโรคจิตทุกรูปแบบ
• หมอเดว ชี้ "ไข่เน่า" ควรตอบแทนมากกว่ารังแกสังคม