เด่นโซเชียล

"กรมอนามัย" ชี้ วิธีป้องกัน "สัตว์มีพิษ" ยามหน้าฝน เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข" แนะวิธีป้องกัน "สัตว์มีพิษ" ช่วงหน้าฝน เน้นทำความสะอาด และจัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้โล่งเตียน 

 9 ก.ย.64 นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าฝนประชาชนมักได้รับผลกระทบจากสัตว์มีพิษที่เข้ามาในบริเวณบ้าน เช่น งู ตะขาบ และแมงป่อง บางชนิดอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะงู มักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ชื้นแฉะ รก และมีแหล่งอาหาร การป้องกัน ควรทำลายแหล่งอาหารของงูอย่างเช่นหนู โดยกำจัดเศษอาหารตกค้างเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของหนู สำรวจบริเวณรอบบ้าน และปิดช่องทางที่หนูและงูสามารถเข้ามาได้ รวมทั้งตรวจสอบระบบท่อไม่ให้มีรูรั่วหรือรอยแตก ควรตรวจสอบรองเท้าก่อนใส่ เนื่องจากงูอาจหลบซ่อนอยู่

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

หากพบงูอยู่ในบ้านให้โทร 199 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาจัดการ กรณีถูกงูกัด การปฐมพยาบาลควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ห้ามกรีดหรือดูดบริเวณที่ถูกกัด ไม่ควรขันชะเนาะ รีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที และจดจำลักษณะงูที่กัดเพื่อแจ้งแพทย์ให้การรักษาที่ถูกต้อง 

 

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สัตว์มีพิษอีกชนิดหนึ่งที่ต้องระวังคือ ตะขาบ เพราะเมื่อโดนกัด จะทำให้มีอาการปวด คัน บวมแดงบริเวณที่ถูกกัด การปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดด้วยน้ำสะอาด และประคบน้ำอุ่นครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการบวม หลีกเลี่ยงการเกา แกะ  

 

 

"กรมอนามัย" ชี้ วิธีป้องกัน "สัตว์มีพิษ" ยามหน้าฝน เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต


 บริเวณที่ถูกกัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และรีบไปพบแพทย์หากพบว่ามีอาการบวมหรือปวดเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่ถูกแมงป่องต่อย อาการส่วนใหญ่คือปวดบวมบริเวณที่ถูกต่อย โดยมากมีอาการในวันแรกและมักหายได้เองส่วนรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีหัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว ความดันโลหิตสูง ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก ปฐมพยาบาลโดยทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดด้วยน้ำสะอาดและประคบเย็น ครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการบวมเฉพาะที่ได้เช่นเดียวกัน 
 

 

“ทั้งนี้ ในกรณีที่บ้านมีเด็กเล็ก พ่อแม่ ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งทำความสะอาดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้สะอาด ด้วยการจัดเก็บสิ่งของและเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มี  มุมอับชื้น หรือเป็นแหล่งหลบซ่อนอาศัยของสัตว์มีพิษ คัดแยกขยะก่อนทิ้ง และทิ้งขยะหรือเศษอาหารในภาชนะที่มี  ฝาปิดมิดชิด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งเพาะพันธุ์ภายในบริเวณบ้าน  ส่วนบริเวณภายนอกบ้านควรให้   โล่งเตียน หากมีการปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้าน ควรตัดแต่งไม่ให้รกรุงรัง พร้อมกับกำจัดเศษใบไม้ใบหญ้าทุกครั้ง ไม่ควรกองทิ้งไว้ เพราะจะทำให้เป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษได้” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

 

 

ที่มา กรมอนามัย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ