เด่นโซเชียล

"ฉีดวัคซีนโควิด-19" ให้กลุ่มเสี่ยงภาคใต้แล้วกว่า 70%

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ. ปรับกลยุทธ์เร่งรัดการ "ฉีดวัคซีนโควิด-19" ในกลุ่มเสี่ยงให้ได้ตามเป้า 70% พร้อมเดินหน้าฉีดในกลุ่มอื่น ๆ ให้ความครอบคลุม

นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ประเด็นการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในพื้นที่ ว่า เขตสุขภาพที่ 12  ดูแลในเขตภาคใต้ตอนล่าง 7 จังหวัด ในจำนวนนี้เป็นจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวดถึง 4 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ สงขลา จึงต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีน ในกลุ่มเสี่ยง 608 ได้แก่กลุ่มผู้อายุ ผู้มีโรคประจำตัว ให้ได้ 70% ตามเป้าหมายที่วางไว้เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจาโควิด 19 และเพื่อให้การควบคุมโรค มีประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยมีชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีน หรือเรียกว่า ศูนย์สู้ภัยโควิด 19 ชุมชน ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลพื้นฐานในชุมชน มีบทบาทในการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 แบบครบวงจร เฝ้าระวังบุคคลเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง คัดกรองกลุ่มเสี่ยงในชุมชนด้วย ATK  โดยทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายตั้งแต่ระดับปฐมภูมิถึงตติยะภูมิ และใช้กลไก 3 หมอที่มีอยู่ 

นพ.สุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในเขตสุขภาพที่ 12 ได้เพิ่มการเข้าถึงวัคซีนโควิด 19 ให้มากที่สุด ด้วยการนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนถึง รพ.สต. ส่วนผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่เดินทางลำบากจะมีบุคลากรการแพทย์ไป ฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน มุ่งเป้าการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 608  โดยกระตุ้นให้แต่ละอำเภอฉีดให้ได้ตามเป้าหมาย ด้วยการมอบรางวัล และประกาศเกียรติคุณ ที่ฉีดวัคซีนได้ 70%  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นแรงผลักดันให้พื้นที่อื่นๆ เร่งรัดตามมา เมื่อแต่ละอำเภอสามารถดำเนินการสำเร็จจะทำให้ภาพรวมการฉีดวัคซีนของจังหวัด และเขตสุขภาพเกิดความครอบคลุม ล่าสุดการฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นชัดเจน ข้อมูลถึงวันที่ 2 กันยายน 2564 เขตสุขภาพที่ 12 ได้ฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 ไปแล้ว 523,372 คน คิดเป็น 48.79%  ซึ่งผลดีการการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมคือ จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่ หรือหากมีประชาชนติดเชื้อโควิด 19 จะช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ