เด่นโซเชียล

"คลายล็อกดาวน์" เช็กวิธีปฏิบัติก่อนพาลูก "นั่งทานที่ร้าน"

03 ก.ย. 2564

สธ. แนะ "ผู้ปกครอง" ดูแลเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนวิธีง่ายๆ 3 ข้อ ก่อนพาลูก "นั่งทานร้านอาหาร" ส่วนเด็กที่มีโรคประจำตัวเลี่ยงได้เลี่ยงเลย

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้ข้อมูลกับคมชัดลึกออนไลน์ ว่า สำหรับผู้ปกครองที่มีลูกอายุยังไม่ถึง 18 ปี และยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่ต้องการพาลูกออกไปรับประทานอาหารตามร้านอาหารทั่วไป ภายหลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019( ศบค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ โดยร้านอาหารจะต้องปฏิบัติตามาตรการมาตรการ COVID Free Setting  เช่น จัดอุปกรณ์รับประทานอาหารเฉพาะบุคคล  งดจัดบริการอาหารรูปแบบผู้บริโภคบริการตนเอง เช่น บุฟเฟ่ จัดบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำโต๊ะ รักษาระยะห่าง ด้วยการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และโต๊ะรับประทานอาหาร 1-2 เมตร หากพื้นที่จำกัด มีระยะไม่ถึง 1 เมตรให้ทำฉากกั้น  พื้นที่มีเครื่องปรับอากาศเว้นระยะระหว่างโต๊ะ 2 เมตร จัดพื้นที่ไม่ให้แออัด ไม่นั่งตรงข้ามกัน พื้นที่ที่ เครื่องปรับอากาศนั่งได้ 50 % พื้นที่เปิดนั่งได้ 75 % จำกัดระยะเวลารับประทานอาหารไม่เกิน 1 ชั่วโมง

 

ขณะนี้มีผู้ปกครองหลายคนค่อนข้างกังวลว่าจะสามารถพาลูก ๆ ออกไปรับประทานนอกบ้านได้หรือไม่นั้น สธ. แนะนำว่า กรณีเด็กที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนสามารถใช้บริการที่ร้านอาหารกับผู้ปกครองได้ตามปกติ แต่เพื่อความปลอดภัย ผู้ปกครองสามารถปฏิบัติตัวตามแนวทางได้ ดังนี้

  • ตรวจสอบมาตรการของร้านว่าดำเนินการ ตามมาตรการ COVID Free Setting หรือไม่

 

  • หมั่นล้างมือให้เด็กด้วยเจลแอลกอฮอล์ , สเปรย์แอลกอฮอล์ หรือทิชชู่เปียกตลอดเวลาขณะนั่งที่ร้าน

 

  • ดูแลไม่ให้เด็กเอามือเข้าปาก เพราะมือเป็นจุดสะสมของเชื้อโรค 

 

สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรค ต่อไปนี้ 

  • เด็กที่ป่วยอยู่ในกลุ่มโรคเลือด
  • เด็กที่ป่วยเป็นมะเร็ง
  • เด็กที่ป่วยเป็นโรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง    

ผู้ปกครองควรงดพาเด็กออกไปรับประทานอาหารที่ร้าน เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะได้รับเชื้อโควิด-19 และเกิดอาการป่วยรุ่นแรงได้  ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้สั่ง delivery เพื่อลดความเสี่ยงในการเข้าไปใช้บริการในร้านอาหารแทนจะปลอดภัยกับเด็กมากกว่า

อย่างไรก็ตามแม้ว่าอาการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กจะมีอาการไม่ค่อยรุนแรงมากหนัก แต่ในระหว่างที่รอวัคซีนผู้ปกครองควรจะดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากสามารถหลีกเลี่ยงการพาเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนออกไปรับประทานอาหารที่บ้านก็จะดีกว่า