บันเทิง

อดีตผู้จัดการ เสียใจ ยันไม่ได้โกง "ลีเดีย" แจงหักเงิน 15% มีข้อผิดพลาดตรงไหน

11 ก.ย. 2567

อดีตผู้จัดการ "ลีเดีย" เปิดใจครั้งแรก หลังเจอแก๊งดารา ปลดฟ้าผ่า เจ้าตัวยืนยันไม่ได้โกง พร้อมแจงละเอียด หักเงิน 15% บวกเพิ่มเท่าไหร่ มีข้อผิดพลาดตรงไหนบ้าง

 

 

ตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อหลายเดือนก่อน สำหรับเรื่องราวของ "โน้ต ชาคริยา สมุทรคีรี" อดีตผู้จัดการของดาราสาว "ลีเดีย ศรัณย์รัชต์" และครอบครัว หลังก่อนหน้านี้ลีเดียออกมาประกาศข่าวฟ้าผ่า ผ่านอินสตาแกรม "ครอบครัวดีน ได้ยุติบทบาทของ น.ส.ชาคริยา สมุทรคีรี (โน้ต)ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวและตัวแทนของครอบครัวดีนทั้งหมด ได้แก่ ลีเดีย แมทธิว ดีแลน เดมี่ ดีออน เพื่อความสะดวกในการทำงานมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ วันนี้ 19 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป"

 

 

จากนั้น "ลีเดีย" พร้อมด้วยสามี "แมทธิว" ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่งานอีเวนต์ เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า "เท่าที่จำได้เขาก็ไม่ได้มีการติดต่ออะไรเรามา ถือเป็นบทเรียนราคาแพงแล้วกัน รักมากก็เจ็บมาก ที่ผ่านมาที่ไม่อยากจะพูดอะไร เพราะเรารู้สึกว่าเราเสียใจที่จะพูด"

 

 

อดีตผู้จัดการ เสียใจ ยันไม่ได้โกง \"ลีเดีย\" แจงหักเงิน 15% มีข้อผิดพลาดตรงไหน

 

 

 

ล่าสุด อดีตผู้จัดการของดาราสาว "ลีเดีย" ได้ออกมาแก้ต่างเรื่องราวนี้ กับผู้สื่อข่าว "คมชัดลึกออนไลน์" ที่ร้านระเบียงแซ่บ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียใจมาก เหมือนฟ้าถล่ม มันเอ๋อ มันช็อกทุกอย่าง ทำไมไม่ออกมาชี้แจงแต่แรก ทำไมเงียบ คือเรารักและอยากให้เกียรติทุกคน คิดว่าเราเป็นคนนึงที่อยู่เบื้องหลังกับทุกคน คอยสนับสนุนช่วยเหลือให้เขาประสบความสำเร็จ มีกระแส มีงาน มีชื่อเสียง จะคอยมองอยู่หลังเวทีตลอด 

 

 

ที่ไม่ออกมาพูด ก็ไม่อยากพาดพิงถึงใคร หรือทำให้ใครเสียชื่อ หรือให้ใครมีผลกระทบ แต่พอเราไม่พูดเลย มันทำให้เรื่องไปกันใหญ่ จากเรื่องเล็กๆ น้องเกิดความเข้าใจผิดกัน ยิ่งเงียบก็ยิ่งเข้าใจผิด 

 

 

น้องๆที่เราดูแลมาจากคนละที่กัน บางคนเป็นเพื่อนแนะนำกันมา ต่างที่ ต่างการทำงาน แต่เราทำหน้าที่รวมทุกคนให้อยู่กลุ่มเดียวกันได้ เราดูแลทุกคนเหมือนครอบครัว ไม่ได้ดูแลกันแค่เรื่องงาน เราดูไปถึงเรื่องส่วนตัวด้วยใครติดขัดตรงไหน เหมือนเป็นการช่วยเหลือกัน เพราะนี่คือคนในครอบครัวของเรา ไม่ให้ใครมาทำลายคนในครอบครัวของเราได้ 

 

 

สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นการพลาดครั้งใหญ่ สิ่งเดียวของเราเลยคือการสื่อสาร พอการสื่อสารมันไม่ได้มีการสื่อสาร เลยทำให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ การทำงานของเรามองแค่เป้าหมาย อยากให้น้องได้งาน มีชื่อเสียง มองแค่จุดนั้น ระหว่างทางเราไม่เคยมองอุปสรรคระหว่างทางเลย 

 

 

เรื่องที่ออกไปหลายคนมองว่าเราโกง ขออธิบายชี้แจงว่า การทำงานของเรา เราทำงานในรูปแบบของบริษัท เราเองเป็นผู้จัดการ ที่เป็นผู้จัดการแบบ Management รับหัวโขนเป็นผู้จัดการดูแลและขายงานไปด้วย เป็นการกระตุ้นให้ทุกคนได้งานมากขึ้น เลยทำงานในรูปแบบบริษัท

 

 

อดีตผู้จัดการ เสียใจ ยันไม่ได้โกง \"ลีเดีย\" แจงหักเงิน 15% มีข้อผิดพลาดตรงไหน

 

 

affaliate-2

 

 

ในบริษัทเราทำงานเป็นทีม เราทำงานคนเดียวไม่ได้ เนื่องจากเราดูแลหลายคน เพราะถ้าคนๆเดียวลูกค้าติดต่อมาต้องรอไง มันต้องนู่นนี่นั่น เราเลยเลือกใช้ทีม มีพนักงาน มีบริษัท มีหลายจุดๆ เพื่อที่จะได้ทำงานได้ทันท่วงที ตอบงานได้ ช่วยคิดงานได้ เพื่อให้ลูกค้าไปหางานเพิ่ม เพื่อให้น้องมีงานตลอด  

 

 

ทีมนี้มีหลายตำแหน่ง เอามาทำไม เอามาซับพรอตในการทำงานของน้อง ทุกอย่าง ลูกค้าด้วย โดยบริษัทเป็นคนจ่ายค่าทำงานของทีมทั้งหมด ทุกคนมีเงินเดือน แต่ละคนจะได้เงินตามจ็อบเพิ่ม ทุกคนมีเงินเดือน สมมุติทุกคนไปหน้างานก็ได้เงินเพิ่ม ทุกคนคิดคอนเทนต์ เพราะมีงานรีวิวเยอะมาก เราก็ให้เงินในการคิดคอนเทนต์ ทุกอัตราต้องได้เงินในทุกจุด แม้กระทั่งค่าเดินทางของทีมงาน ค่าอาหารของทีมงาน พวกนี้บริษัทจ่ายทั้งหมด ไม่เคยขาด หรืองานฟรีงานโปรโมท เราก็ต้องส่งทีมงานไปประกบทั้งหมด ซึ่งบริษัทจ่ายทั้งหมด แล้วก็มีต้นทุนหลานอย่างในบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับน้องๆทุกคน 

 

 

ประเด็นคือเราไม่เคยเซ็นสัญญากับน้องเลยสักคนเดียว ไม่เคยเซ็น ไม่เคยมีสัญญาระหว่างกัน เราคิดว่าน้องๆที่ไม่เซ็นสัญญาเลยเราทำงานแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าค่าใช้จ่าย หรืออะไรที่เรารับผิดชอบในค่าใช้จ่ายตรงนี้ บริษัทไม่ได้เก็บกับน้องๆเลย เราเลยไม่ได้เลือกที่จะชี้แจงน้องๆในจุดนี้ว่ามันมีอะไรบ้างระหว่างทาง มันเป็นการรับผิดชอบของบริษัทมากกว่า 

 

 

และเวลาที่ลูกค้าติดต่อมา ก่อนอื่นเลยจะให้น้องเซ็ตเรตราคาค่าตัวของน้องก่อน งานแบบนี้ๆ น้องคิดค่าตัวเท่าไหร่ คอนดิชั่นของน้องแต่ละคนเป็นยังไง เพราะคอนดิชั่นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อะไรได้ อะไรไม่ได้ เราก็จะทำเป็นเรตราคา เพื่อที่จะนำเสนอขายลูกค้า ให้ลูกค้าเลือก หรือบางงานที่ลูกค้ากำหนดมา เราก็เอาไปให้น้องๆเลือก สมมุตว่าแบบนี้ๆ น้องคิดเท่าไหร่ แล้วเราก็เอามาดู เอามาพูดคุยกัน บิดไปมาจนเราคิดว่าต้องได้ เราจะใส่อะไร จะแถมอะไรให้ลูกค้า หรือจะช่วยอะไร อยู่ในพาร์ทการทำงานของเรา ที่อยากให้ได้งาน

 

 

พอเราดิวกับลูกค้าเสร็จเขาจ้างเราแล้ว ลูกค้าจะทำสัญญากับบริษัทวางอินวอยกัน ทำทุกอย่างในรูปแบบบริษัท พอทำสัญญาเสร็จงานมันก็ต้องเริ่ม เรามีหน้าที่ทำจามสโคบออฟเวิร์คที่เราดิวกับลูกค้าให้สำเร็จ 

 

 

พอเวลาลูกค้าจ่ายเงินมาแล้วหรือวางบิล เราเลือกที่จะจ่ายน้องทุกงาน ภายในเดือน เราจะไม่ค้าง เราจะรอลูกค้าได้ ซึ่งอันนั้นรอในพาสของบริษัท แต่น้องทำแล้วต้องได้ภายในเดือนนั้น เราจ่ายครบทุกบาททุกสตางค์ ในสิ่งในราคาที่เราดิวกับน้องเอาไว้ ไม่เคยหักค่าใช้จ่ายใดๆเลย 

 

 

อดีตผู้จัดการ เสียใจ ยันไม่ได้โกง \"ลีเดีย\" แจงหักเงิน 15% มีข้อผิดพลาดตรงไหน

 

 

แต่มันจะมีส่วนต่างในบางงาน ที่เราสามารถเรียกค่า Management เพิ่มจากลูกค้าได้ ส่วนต่างนั้นเราเอาไปทำอะไร เราเอาไปทำเป็นค่าบริหารการจัดการในบริษัทนี้ เพราะรายละเอียดการทำงานมันเยอะกว่าจะได้ 1 งาน มันก็เลยทำให้มีตัวนี้ แต่บอกก่อนว่าเราไม่สามารถพลัสในค่าแมเนจได้ทุกงาน บางงานมันก็ไม่ได้ 

 

 

สมมุติน้องคิดเงินมาแล้ว เรียกเรตราคานี้ ไปบวกเพิ่มเท่านี้ นี่คือค่า Management แต่มันไม่ได้ทุกงาน บางทีเราต้องดูลูกค้าด้วยว่ามีเท่าไหร่ ไหวไหม ซึ่งบางงานเขาโยนมาเลยทั้งก้อน ฉันมีเท่านี้ ฉันอยากได้คน 5 คน ทำลิสมาหน่อยใครได้ราคานี้มาบ้าง บางทีเราเอาไป 7 คน เพื่อให้ลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อให้เราได้พุชน้องบางคนให้เขาได้มีงาน 

 

 

(หัก 15 % จากค่าตัวที่ให้น้อง หรือหัก 15 % จากยอดรวม?) ถ้าพูดถึงเรื่องเปอร์เซ็นต์จะบอกว่าการดิวของเรา เราคุยกับน้องๆในแบบแม็กซิมั่ม แม็กซิมั่มได้ 15 % จากค่าตัวน้อง นั่นคือพาสของผู้จัดการ ซึ่งมันไม่ใช่แค่ 15% บางทีมันต่างกว่านั้น บางทีไม่ได้ก็มี เพราะไปงานฟรีบางทีเราก็ไป เราจะมานั่งถามว่างานนี้มีค่าตัวให้เจ๊ไหม มันก็ไม่ใช่ แต่ 15% นั้น เราก็เอาเข้าบริษัท มันไม่ได้เข้ามาที่ตัวเรา มันเข้ามาที่บริษัทหมดเลยค่ะ 

 

 

อยากฝากบอกป้าข้างบ้านที่บอกเราได้ 30% เราก็หงายเหมือนกัน เราได้แค่ 15 % นั่นคือแม็กซิมั่ม (คือ 15% จากค่าตัวน้องไม่ได้รวมค่าเมเนจ?) ไม่ได้รวมค่าเมเนจ ค่าเมเนจคือต่างหาก (สมมุติ 1 แสน ค่าเมเนจ 2 หมื่น ซึ่ง 2 หมื่นออกไป 1 แสน เราไปหักจาก 15%) ใช่ค่ะ (อันนี้ตกลงแต่ทีแรก?) ใช่ค่ะ แต่น้องไม่รู้ว่ามีค่าเมเนจ

 

 

(แล้วค่าเมเนจที่บวกเพิ่มแต่ละคนใช้ยังไง?) เราจะคิดก้อนกลมๆ สมมุติน้องเซ็ตราคาไว้ 1 แสนบาท เราจะบวกไป 2 หมื่นบาท ก็ 20% จาก 1 แสน แต่มันอยู่ที่ลูกค้าจะต่อรองลงมาไหม ลูกค้าจะต่อเหลือ 8 หมื่น แต่เราอยากได้งานนี้เราก็รับ ลูกค้าต่อเหลือ 1.1 แสน เราก็รับหรือจะ 1 แสนเป๊ะ เราก็รับ ทุกอย่างอยู่ที่เรา เราจะทำยังไงก็ได้ ต้องห้ามทำงานหลุด ทุกคนจะรู้เรตของตัวเอง เราจะคอนเฟิร์มทุกอย่างกลับไปก่อนที่จะเริ่มงาน 

 

 

(ได้บอกน้องไหมว่ามีค่าตัว หัก 15% มีค่าเมเนจ?) เราไม่ได้พูดถึงค่าเมเนจ ไม่ได้แจ้งให้ทราบ เราพลาด เขาเข้าใจว่าเราบวกเพิ่ม จริงๆค่าเมเนจตัวนี้ เราแจ้งว่าเรามีทีม ทีมเรามีอะไรบ้าง เรามีทีมกฎหมายดูแลเรื่องสัญญาทุกอย่างครอบคลุม เรามีทีมพีอาร์เพื่อส่งต่อ เรามีทีมคิดคอนเทนต์ มีทีมตัดต่อ ทีมตากล้อง เพราะบางทีเราให้น้องเอาตัวมาถ่ายเลย เราทำให้จบแล้ว 

 

 

เราเอา 15 % ที่อื่นที่เราเห็นคือ 30% เรื่องปกติ แต่เราเอา 15 มันครึ่งนึงเลย จริงๆถ้าเราเซ็นสัญญาก็ควร 30 แต่มันอยู่ในนี้แล้ว บริษัทต้องเมเนจ 15 น้องจ่ายแค่นี้แหละ พอแล้ว ตรงนี้เราได้จากน้อง แต่เราก็เอาเข้าบริษัท เราไม่เคยเอาเข้าตัวเรา เราขอให้คุณลูกค้าที่น่ารักจ่ายในพาสนี้แทนที่น้องๆเป็นคนจ่าย

 

 

(แล้วที่ผ่านมามีปัญหากับลูกค้าไหม?) ไม่ค่ะ ถ้ามีปัญหาลูกค้าจะบอกเลยว่าฉันมีเท่านี้ อันนี้โอเคไหม เราก็จะเมเนจเองว่าลูกค้าคนนี้ซื้อหลายงาน ก็เฉลี่ยๆกันไป (มีบอกดาราลดค่าตัวไหม?) มี ก็ถามว่าลดได้ไหม ถ้าน้องยืนยันว่าขอราคานี้ ก็ราคานี้ 

 

 

ครอบครัวของน้อง เราไม่ได้เป็นผู้จัดการของพี่แมทนะ เราแค่ดูงานครอบครัว และดูในบางงาน คือถ้าบอกว่าเราโกงทั้งครอบครัว เราคิดว่าไม่ใช่ มันเป็นการทำงานแบบที่เราเคยอธิบายมากกว่า จริงๆการทำงานของบ้านน้อง ก็จะเป็นการทำงานที่เราใช้บริษัทเข้ามาดำเนินการเหมือนกัน 

 

 

จริงๆของน้องมันคือเราคนแรก เราคนเดียว ตอนนั้นเรายังไม่มีทีมงาน ยังไม่มีบริษัท เราเดินทางมาด้วยกันตลอด จนวันนึงที่เรารู้สึกว่ามันต้องขยับขยาย มันก็ต้องมีฟังก์ชั่นเพิ่มมากขึ้น เพราะงานทุกวันนี้ดีเทลเยอะมาก ครอบครัวน้องเวลาไปงานก็ต้องเอาทีมไปซับพรอต บอกได้เลยว่าเราไม่ได้โกง

 

 

(เขารู้ดีเทลไหม?) น้องไม่ได้รู้ดีเทลทั้งหมด คำว่าโกงของแต่ละคนมันแตกออกไปเยอะ สำหรับเรามองว่าการโกงคือการให้เงินเขาไม่ครบ หรือการไม่ให้เงินเขาเลย แต่อันนี้ทางเราจ่ายครบ 100% ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆ ตามที่เราดิว (ถ้าเขาแฮปปี้ 1 แสน เราให้ 1 แสน?) ใช่ (ถ้าอยากได้เพิ่มคือแจ้ง?) ใช่ค่ะ แล้วเราเมเนจต่อ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีต ผจก. เล่าทั้งน้ำตา ไม่รู้ "ลีเดีย" ไปฟังใครมา ถ้าน้องจะฟ้อง คงห้ามไม่ได้

 

 

อดีตผู้จัดการ เสียใจ ยันไม่ได้โกง \"ลีเดีย\" แจงหักเงิน 15% มีข้อผิดพลาดตรงไหน