แม้ วิล สมิธ จะขอโทษ คริส ร็อก ต่อเหตุการณ์ "ตบสะท้านออสการ์" แต่เขายังไม่ได้ขอโทษโดยตรงแบบตัวต่อตัว ขณะที่แหล่งข่าวในอะคาเดมี่ อวอร์ด ระบุว่า กำลังมีหารือว่า จะยึดรางวัลคืนหรือไม่ และมีข่าวว่า คริส ร็อก ปล่อยมุกแซวจาดา พิงค์เก็ตต์ โดยไม่รู้มาก่อนว่าเธอเป็นโรคผมร่วง
แม้ วิล สมิธ จะโพสต์ขอโทษ คริส ร็อก อย่างเป็นทางการผ่านอินสตาแกรมแล้ว ว่า การกระทำของเขาเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับและไม่อาจให้อภัยได้ ...รู้สึกอับอายจากการกระทำของตัวเอง และยอมรับว่าการกระทำของเขาล้ำเส้นและเป็นเรื่องที่ผิด
แต่เว็บไซต์ข่าวกอสซิปวงการบันเทิง TMZ รายงานว่า ทั้งคู่ยังไม่ได้คุยกันเป็นการส่วนตัวเพื่อแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเพื่อนสนิทของร็อกบอกว่า หลังจากทำหน้าที่เสร็จ ร็อกได้กลับเข้าไปในห้องแต่งตัวและออกจากอาคารไป ส่วนมุกตลกที่สร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้จาดา พิงค์เก็ตต์ เรื่อง "G.I.Jane" นั้น ก็เพราะเขาไม่ทราบว่าเธอเป็นโรคผมร่วง(alopecia) และแม้จะตัวสั่นและงงที่โดนตบ แต่เขาก็ยังไปร่วมงานงานเลี้ยงหลังพิธีแจกรางวัลที่ลอสแองเจลิส ซึ่งในงานเดียวกัน สมิธก็ถือรางวัลทั้งร้องทั้งเต้นอย่างเต็มที่เช่นกัน
แหล่งข่าววงในของสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (The Academy of Motion Picture Arts and Science) ซึ่งเป็นผู้จัดงานมอบรางวัลออสการ์ ระบุว่า แม้สถาบันจะออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของสมิธ และบอกว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางดำเนินการและบทลงโทษ โดยให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านจรรยาบรรณและกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของชาวโซเชียล ที่มองว่าการกระทำของสมิธเป็น "พฤติกรรมที่อุกอาจที่สุดในประวัติศาสตร์ออสการ์"
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า การที่สมิธยังได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากบทบาทของ ริชาร์ด วิลเลียมส์ ในภาพยนตร์เรื่อง "King Richard" ทั้งที่เขาเพิ่งใช้ความรุนแรง ก็เพราะ "ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ" ต่างนั่งกันอยู่คนละจุดของ Dolby Theater ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ทำให้ไม่สามารถระดมสมองได้ทันก่อนที่สมิธจะขึ้นไปรับรางวัล เว็บไซต์ข่าวบันเทิง Variety รายงานว่า สมิธอาจโดนลงโทษทางวินัยหรือโดนแซงก์ชั่น แต่ไม่น่าจะถึงกับต้องคืนรางวัล
พฤติกรรมก้าวร้าวของสมิธ ยังถูกโยงไปถึงปัญหาครอบครัวและเรื่องราวในอดีต เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้วว่าพ่อของเขาซึ่งเป็นวิศวกรเครื่องกลเกี่ยวกับระบบทำความเย็น ได้ทุบตีแม่ของเขา แต่ตัวเขาที่ยังเล็กก็ขลาดกล้วเกินกว่าจะเข้าไปช่วยแม่ อีกหลายปีต่อมา เมื่อพ่อป่วยเป็นมะเร็งและต้องนั่งวีลแชร์ เขาคิดจะฆ่าพ่อเพื่อแก้แค้นให้แม่ แต่ตอนที่อยู่บนเวทีออสการ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ เขาใช้คำว่า "ผมถูกขอให้รักผู้คน ปกป้องผู้คนและเป็นดั่งสายน้ำให้กับผู้คน"
ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตคู่กับ จาดา พิงค์เก็ตต์ หลังแต่งงานกันเมื่อปี 2540 และถูกมองว่าเป็นคู่รักนักแสดงที่อยู่กันยาวนานที่สุดคู่หนึ่งของฮอลลีวูดนั้น ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เห็น โดยเฉพาะเมื่อปี 2563 ที่นักร้อง R&B ชื่อดัง ออกัสต์ อัลซินาออกมาเปิดเผยว่า เขากับจาดาแอบมีความสัมพันธ์กัน โดยตอนแรกทั้งคู่ปฏิเสธ แต่ต่อมายอมรับว่าเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปี ที่จาดากับสมิธแยกกันอยู่ โดยเขารู้จักเธอผ่านทางจาเดนลูกชายของจาดากับสมิธ แต่สมิธเพิ่งให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ เมื่อปีที่แล้วว่า "เราให้ความไว้วางใจกับให้เสรีภาพแก่กันและกัน โดยเชื่อว่าทุกคนต้องหาทางของตัวเอง" และบอกว่าวางแผนจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง