คอลัมนิสต์

กลิ่นดีลรัก ‘เดชอิศม์’ ในกระแสข่าว ‘ปรับ ครม.’ พลิกปูมอดีตคนเคยรักกัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนใจถึง เดชอิศม์ แม่บ้าน ปชป.ยุคฝ่ายค้านลับลวงพราง ท่ามกลางกระแสข่าวปรับ ครม.กระหึ่มเมือง พลิกปูมอดีตบ้านใหญ่ตระกูลขาวทอง เคยสังกัดพรรคทักษิณ

คนเพื่อนเยอะ เดชอิศม์ แม่บ้าน ปชป.ยุคฝ่ายค้านลับลวงพราง ท่ามกลางกระแสข่าวปรับ ครม.กระหึ่มเมือง พรรคเก่าแก่พร้อมเป็นอะไหล่ทางการเมืองแล้วหรือ


ย้อนเส้นทาง วรวิทย์หรือเดชอิศม์ มีจองชัยเป็นไอดอล ตัดสินใจลุยสนาม สส.สงขลาหนแรกในสีเสื้อไทยรักไทย ท้าทายกระแสคนใต้ ที่ไม่เอาระบอบทักษิณ 


กระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรีกระหึ่มเมืองอีกครั้ง หลังมีข่าวว่า จะมีการปรับภายหลังที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 มีผลบังคับใช้ โดยอยู่ระหว่างที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2567  ขึ้นทูลเกล้าฯถวาย เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย
 

ล่าสุด การปรับ ครม.อาจจะขยับออกไป หลังการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 โดยตามปฏิทินงบประมาณจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 มิ.ย.67


แกนนำพรรคเพื่อไทย เตรียมทาบทามพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อเพิ่มเสถียรภาพรัฐบาลให้มีความเข้มแข็งขึ้น สำหรับตัวเต็งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค ปชป. มีชื่อของ เดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรค และชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรค


ถ้าพรรค ปชป.เข้าร่วมรัฐบาลเศรษฐา สส.จำนวน 25 คน จะแบ่งเป็น 2 ปีกคือ 21 คนร่วมรัฐบาล และ 4 คนเป็นฝ่ายค้านได้แก่ ชวน หลีกภัย, บัญญัติ บรรทัดฐาน, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา ไม่สนับสนุนให้ร่วมรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ขั้วรัฐบาลมี สส. รวม 337 เสียง


ไม่แปลกที่ผู้คนจะจับตาดูบทบาท เดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย และเคยมีข่าวเดินทางไปพบทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง เมื่อปลายเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว

อดีตไทยรักไทย
นับแต่ เดชอิศม์ ขาวทอง เข้ามาสังกัดพรรค ปชป. เกจิการเมืองแถวสงขลาก็มองทะลุว่า เขาเป็น ปชป.สายพันธุ์ใหม่ ที่แตกต่างจาก ปชป.พิมพ์นิยมเดิม-ชวน หลีกภัย


ช่วงวันเกิดทักษิณ ชินวัตร ปลายเดือน ก.ค.2566 ก็มีข่าว เดชอิศม์ และภรรยาเดินทางไปฮ่องกงเข้าพบทักษิณที่โรงแรมทางฝั่งเกาลูน แต่ สส.สงขลาคนดังปฏิเสธข่าวนี้ บอกว่า พาภรรยาไปแก้บนหลังชนะเลือกตั้ง


วันที่ 22 ส.ค. 2566 วันประชุมรัฐสภาโหวตเลือก เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่า มี สส.พรรค ปชป. 16 คน นำโดย เดชอิศม์ ขาวทอง และชัยชนะ เดชเดโช โหวตเห็นชอบเศรษฐาเป็นนายกฯ


“แล้วเราเป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ทั้งหมด ไม่เคยใส่เสื้อเหลือง ไม่เคยใส่เสื้อแดง ไม่เคยมีความขัดแย้ง เราไม่ควรจะมารับมรดกความขัดแย้งต่อจากรุ่นเก่าๆ เราถามกันทุกคน ซึ่งทุกคนมีความเห็นว่าขอให้ชาติเดินไปข้างหน้าได้ เราควรสนับสนุนให้เขาเป็นนายกฯ”


นี่คือคำธิบายของเดชอิศม์ ขาวทอง หรือชื่อเดิม วรวิทย์ ขาวทอง อดีตนายก อบจ.สง ขลา(เลือกตั้งทางอ้อม) ที่เคยเป็นสมาชิกพรรคไทยไทย


ย้อนไปดูการเลือกตั้ง สส.สงขลา ปี 2548 เดชอิศม์ หรือวรวิทย์ สวมเสื้อไทยรักไทย ลงสนามสงขลา เขต 5 (สิงหนคร ควนเนียง บางกล่ำ และรัตภูมิ) ผลก็คือ ประพร เอกอุรุ พรรค ปชป. ได้ 47,680 คะแนน และ วรวิทย์ ขาวทอง พรรค ทรท.ได้ 33,039 คะแนน

 

 

นายกชาย หรือเดชอิศม์ แม่บ้าน ปชป.ยุคบ้านใหญ่

 

 

ถอดแบบจองชัย
เดชอิศม์ ขาวทอง หรือ ‘นายกชาย’ มีคติประจำใจที่ว่า ไม่มีพรรค มีแต่พวก และเพื่อน ซึ่งอาจไม่ใช่พิมพ์นิยมของ ปชป. เพราะถอดแบบจาก จองชัย เที่ยงธรรม ซึ่งเป็นนักการเมืองอาวุโสที่เขาเคารพนับถืออย่างสูง


เส้นทางการเมืองของ วรวิทย์ หรือเดชอิศม์ ขาวทอง เกิดที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ก้าวสู่ถนนการเมืองท้องถิ่น เป็น สจ.สงขลา เขต อ.รัตภูมิ และเป็นนายก อบจ.สงขลา 


สมัยเดชอิศม์ เป็น สจ.สงขลา ก็ทำหน้าที่เป็นหัวคะแนนให้ ถาวร เสนเนียม อดีต สส.สงขลา พรรค ปชป. 


หลังพ่ายเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา 2 ครั้งซ้อน ปี 2551-2552 เดชอิศม์ก็เดินหน้าทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และช่วยเหลือเพื่อนฝูงตามประสาคนใจใหญ่ ใจถึงพึ่งได้


ก่อนเลือกตั้งปี 2562 เดชอิศม์พยายามเสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป. โดยการสนับสนุนของถาวร ในที่สุด นายกชายก็ได้สวมเสื้อ ปชป.สมใจปรารถนา


จังหวะที่บริบทการเมืองภาคใต้เปลี่ยน คนใต้ไม่เลือก ‘พรรคของคนใต้’ เหมือนในอดีต และมีพฤติกรรมเลือก สส.ไม่ต่างจากภาคกลางและภาคอีสาน คนมีเพื่อนเยอะแบบเดชอิศม์จึงประสบความสำเร็จในสมรภูมิเลือกตั้ง สส.ภาคใต้

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ