ซูเปอร์บิ๊กดีล ‘อุ๊งอิ๊ง’ ขานรับมินิ ‘วปอ.’ ตอบโจทย์อนุรักษนิยมใหม่

วิจารณ์ไฟลุก อุ๊งอิ๊ง เรียนมินิ วปอ.รุ่นแรก แท้จริงกองทัพคิดไว้ แต่ไม่ได้ทำ บิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ ได้จังหวะฟื้นในรัฐบาลซูเปอร์บิ๊กดีล

ฝ่ายประชาธิปไตยวิพากษ์ วปอ. คือหลักสูตรซูเปอร์คอนเนกชัน มินิ วปอ.จึงเป็นยุทธศาสตร์ฝ่ายอนุรักษนิยม ดึงคนรุ่นใหม่ สู้พลังสีส้ม

เมื่อปลายปีที่แล้ว วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.) กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ได้เปิดเผยรายชื่อผู้ที่เข้าเรียนหลักสูตรผู้บริหารยุคใหม่ในอนาคต (วปอ.บอ.)
 

ปรากฏว่า อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีชื่อเป็นนักศึกษา วปอ.บอ.รุ่นแรก ยุค พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อุ๊งอิ๊ง ได้อภิสิทธิ์เข้าเรียน วปอ.บม.หรือมินิ วปอ. ทางกองทัพ จึงต้องมาชี้แจงว่า หลักสูตรดังกล่าวนี้ ไม่ได้เอื้อแก่อุ๊งอิ๊งเพียงคนเดียว

มีรายงานว่า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ยื่นใบสมัครออนไลน์ เพื่อเข้าเรียนหลักสูตร วปอ.บอ. ช่วงต้นเดือน ธ.ค.2566 ซึ่งเวลานั้นมีผู้สมัครกว่า 300 คนแล้ว ทาง วปอ.จึงขยายเวลารับสมัคร จนถึง 31 ธ.ค. 2566 จึงมียอดผู้สมัครมากถึงกว่า 600 คน แต่ต้องคัดเลือกให้เหลือ 150 คนเท่านั้น

จริงๆ แล้ว มินิ วปอ. ไม่ใช่เรื่องใหม่ กองทัพได้คิดหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ (วปอ.บม.) เมื่อปี 2558 แต่มีปัญหาติดขัดในเรื่องระเบียบข้อกฎหมาย จึงพับหลักสูตรนี้ไป

ช่วงปี 2563-2565 การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ ทั้งอนาคตใหม่ และกลายเป็นก้าวไกล ทำให้กองทัพพยายามฟื้นหลักสูตร วปอ.บม. เพื่อดึงคนรุ่นใหม่ แต่ก็ยังติดขัดเรื่องระเบียบและงบประมาณ 
 

หลักสูตรขยายมวลชน
จังหวะที่ บิ๊กอ๊อบ-พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี เป็น ผบ.ทหารสูงสุด ซึ่งนายทหารรุ่นใหม่ มีความสนิทสนมกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  จึงได้ปรึกษาหาเรื่องปัดฝุ่นหลักสูตร วปอ.บอ. และนายกฯเศรษฐา ก็เห็นด้วย

 

 

มีการปรับเปลี่ยนจากหลักสูตร วปอ.บม. เป็น วปอ.บอ. โดยให้สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.) เป็นเจ้าของหลักสูตร ไม่ใช่ วปอ. จึงไม่ต้องผ่านสภา วปอ. หรือเข้า ครม. โดยใช้งบประมาณของ สปท.เอง

บิ๊กอ๊อบ-พล.อ.ทรงวิทย์ มีแนวคิดสร้าง Young Leader ในหลายวงการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในความมั่นคงทุกมิติ และสามารถนำไปใช้งานได้

หลักสูตร วปอ.บอ. จึงพุ่งเป้าไปที่คนรุ่นใหม่ระดับอายุ 35-42 ปี รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ ดารา นักแสดง ฯลฯ 

โดยเฉพาะกลุ่มเจเนอเรชัน Y, Z และ Alpha สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดีต่อสังคม โดยมีประสบการณ์หรือทำงานเกี่ยวข้องกับความมั่นคงระดับชาติอย่างน้อย 3 ปี เป็นต้น

จุดอ่อนของฝ่ายอนุรักษนิยมคือ การทำสงครามมวลชนยุคโซเชียล ตกเป็นรองฝ่ายประชาธิปไตยสีส้ม  

ฉะนั้น การดึงอินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ ฯลฯ มาเรียนหลักสูตร วปอ.บอ. ก็เป็นส่วนหนึ่งของสงครามมวลชนยุคใหม่ 

 

 

แม่ทัพอนุรักษนิยมใหม่
หลักสูตร วปอ.บอ ที่เปิดกว้างมากขึ้น ลดข้อครหา วปอ.คือหลักสูตรซูเปอร์คอนเนกชัน แต่การที่มีชื่อ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร กลับกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที

ว่ากันว่า นายกฯเศรษฐา เป็นผู้ชักชวนให้อุ๊งอิ๊ง มาสมัครเรียนหลักสูตร วปอ.บอ. โดยให้ชวนเพื่อนมาสมัครเรียนด้วย จึงไม่แปลกที่จะมีชื่อ เอิง-คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ร่วมเรียนหลักสูตรนี้

ฝั่งรัฐบาลเศรษฐา คงกลัวอุ๊งอิ๊งเหงา จึงมีทายาทนักการเมืองมาสมัครเรียนมินิ วปอ.เพียบ เช่น พชร นริพทะพันธุ์, ศิรินันท์ ศิริพาณิชย์, ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์, อาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล, ศศิยาพัชร์ เลาหพงศ์ชนะ, พิมพ์ศิริ จีนะวิจารณะ, พสุ ลิปตพัลลภ, ณัฐธิดา เทพสุทิน, สงกรานต์ เตชะณรงค์, รวิศ สอดส่อง, พัฒนา พร้อมพัฒน์ ฯลฯ

อีกด้านหนึ่ง ในอนาคต อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ถูกวางตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ตามยุทธศาสตร์ซูเปอร์ดีล ระหว่างขั้วเพื่อไทยกับขั้วอนุรักษนิยม การเข้าเรียนมินิ วปอ.ในเวลานี้ จึงเหมาะสมและทันการณ์ โดยอุ๊งอิ๊งไม่ต้องรออายุ 50 ปี เพื่อจะเรียน วปอ.ได้

เหนืออื่นใด ทักษิณ ชินวัตร กำลังเล่นบทประนีประนอมกับขั้วอนุรักษ นิยม ลูกสาวคนเล็กได้เรียนมินิ วปอ. จึงตอบโจทย์ฝ่ายอนุรักษนิยม