ไม่มีไฟเขียวจากกฤษฎีกา เศรษฐา บุกน้ำลุยไฟดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อุ๊งอิ๊ง ตัวแทนชั้น 14 ส่งสัญญาณพรรคร่วมหนุนกู้ 5 แสนล้าน
กฤษฎีกาไม่ฟันธง เศรษฐา ไปต่อดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อุ๊งอิ๊ง ตัวแทนชั้น 14 ส่งสัญญาณลุยไฟ ดันพรรคร่วมหนุนกู้ 5 แสนล้าน
ดิจิทัลวอลเล็ตล้มไม่ได้ เดิมพันอนาคตชนชั้นนำอนุรักษนิยม หากเพื่อไทยไร้อาวุธหนัก เลือกตั้งสมัยหน้า ก้าวไกลกวาดเรียบ
วันที่ 9 ม.ค.2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ยืนยันเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่งความเห็นถึงการออก พ.ร.บ.กู้เงินมาให้รัฐบาลแล้ว
นายกฯเศรษฐา บอกว่า จากนี้ไปจะนำความเห็นของกฤษฎีกาเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ไปพูดคุยต่อในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
แหล่งข่าวในเพื่อไทยเล่าว่า การส่งคำถามไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยพิจารณาข้อกฎหมายนั้น จะเป็นใบเบิกทางสำหรับการกู้เงิน 5 แสนล้านนั้นว่า ทำได้ หรือไม่ได้ ซึ่งกฤษฎีกาที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ก็ต้องตอบว่า ทำได้ กู้เงิน 5 แสนล้านได้
คณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ใช่องค์กรอิสระตรวจสอบรัฐบาล และไม่มีหน้าที่จะหาคำตอบให้รัฐบาลว่า เศรษฐกิจเกิดวิกฤตหรือไม่ จึงพิจารณาในข้อกฎหมายว่าด้วยการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทเท่านั้น
ไม่มีไฟเขียว
ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อกรณีคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งคำตอบเรื่องการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทให้รัฐบาล
คำถามของรัฐบาลถามว่า ออกเป็น พ.ร.บ.ได้หรือไม่ และไม่ได้ถามว่า เศรษฐกิจวิกฤตหรือไม่
คำตอบของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น ตอบเป็นข้อกฎหมายอย่างเดียว และเป็นการอธิบายถึงมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ว่าเงื่อนไขที่กำหนดไว้มีอะไรบ้าง
สรุปว่า มาตรา 53 บอกว่า ให้ออกเป็นกฎหมายได้ แต่เงื่อนไขเร่งด่วนต้องกู้เงินมาแก้วิกฤติของประเทศ เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาดูว่ามันเข้าเงื่อนไขนั้นหรือไม่
ส่วนจะออกเป็น พ.ร.บ. หรือ พ.ร.ก.ก็แล้วแต่ เพราะออกเป็นกฎหมายเหมือนกัน
“ถ้าเรียกว่าปลอดภัย ก็ปลอดภัยทั้งคู่ ถ้าถูกเงื่อนไขมันก็ปลอดภัยหมด แค่นั้นเอง...ถ้าทำตามผม ปลอดภัยแน่นอนครับ” ปกรณ์ กล่าว
เรือธงล่มไม่ได้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายกฯเศรษฐา เพิ่งควง อุ๊งอิ๊ง- แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ไปร่วมกิจกรรม Kick off 30 บาท รักษาทุกที่ หรือ 30 บาทโปร ที่ จ.ร้อยเอ็ด
โครงการ 30 บาทโปร ก็ไม่ต่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เป็นเรือธงของรัฐบาลเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ในการต่อสู้เอาชนะพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ดังนั้น นายกฯเศรษฐา จึงประกาศยึดไทม์ไลน์เดิม กู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาทำโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่น ให้กับคนไทย 50 ล้านคน ซึ่งน่าจะมีการคิกออฟภายในเดือน พ.ค.นี้ ตามแผนที่วางไว้
หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลเศรษฐาทำถูกกฎหมาย และกฤษฎีกาคงมีข้อแนะบางประการ ยกตัวอย่าง สมัยกองทุนหมู่บ้าน รัฐบาลไทยรักไทยก็ไม่มีเงินเหมือนกัน แต่ก็ใช้วิธีการกู้เงิน นี่คือในอดีต
ในทางการเมือง คนชั้น 14 ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย คงไม่ปล่อยเรือธงดิจิทัลวอลเล็ตล่มอย่างแน่นอน
ที่สำคัญ วันนี้พรรคเพื่อไทยกลายเป็นหัวหอกของกลุ่มอนุรักษนิยม ที่ยืนประจันหน้ากับพรรคก้าวไกล หากนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ตไปไม่รอด ย่อมส่งผลต่อกลุ่มชนชั้นนำ
อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรค จะต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้ร่วมกันผลักดันร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ให้ผ่านที่ประชุมสภาฯทั้ง 3 วาระ
อีกด้านหนึ่ง นายกฯเศรษฐาแถลงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตต่อรัฐสภาไปแล้ว เท่ากับเป็นนโยบายรัฐบาล และเป็นของคณะรัฐมนตรี จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องมาขวางโครงการนี้
ส่วนคำว่า “เร่งด่วน” หรือไม่อยู่ที่คนมอง และจะมีที่มาอีกหลายอย่างให้เป็นองค์ประกอบให้เห็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง