ฝ่าศึกซักฟอก รอยร้าวเพื่อไทย&อนาคตใหม่
รายการเนชั่นสุดสัปดาห์กับ3บก.ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลาห้าโมงเย็นทางเนชั่นทีวีช่อง22 “สมชาย มีเสน” ซีอีโอเครือเนชั่น ”วีระศักดิ์ พงษ์อักษร“ บรรณาธิการบริหาร นสพ.กรุงเทพธุรกิจ และ ”บากบั่น บุญเลิศ“ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นสพ.ฐานเศรษฐกิจร่วมวิเคราะห์ประเด็น ”ผ่าศึกซักฟอก! รอยร้าวเพื่อไทย-อนาคตใหม่”
“สมชาย” กล่าวว่า ไม่กี่วันข้างหน้าการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติจะเริ่มขึ้น ข่าวการเมืองตอนนี้ไม่มีข่าวใดน่าสนใจเท่าข่าวนี้ แม้ครั้งนี้จะไม่มีการลงมติ แต่ที่ผ่านมาการอภิปรายแบบนี้หากรัฐบาลตอบไม่ได้คะแนนนิยมจะลดลงได้ ในอดีตมีครั้งเดียวที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วแพ้ ที่ผ่านมามักจะได้รับความไว้วางใจแต่คะแนนอาจไม่เท่ากัน คราวนี้ต้องดูว่ารัฐบาลตอบได้ชอบธรรมหรือไม่
ที่ผ่านมาฝ่ายค้านยื่นกระทู้, ยื่นญัตติ แต่นายกฯ ไม่มาตอบ จึงขยับมาอภิปรายทั่วไป
ฝ่ายค้านจะซักฟอกและถลกหนังรัฐบาลแน่ โดยจะอภิปรายการถวายสัตย์ปฏิญาณตน รวมทั้งการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ไม่ชี้แจงที่มาของงบประมาณ แม้รัฐบาลบอกว่าตัวเลขงบประมาณจะชี้แจงในช่วงกลางเดือนตุลาคม ในช่วงเสนอร่างกฎหมายงบประมาณ
ดังนั้นเชื่อว่าฝ่ายค้านจะให้น้ำหนักกับการถวายสัตย์ปฏิญญาณตน เพราะส.ส.ฝ่ายค้านสองร้อยสิบสี่คนลงชื่อในการยื่นอภิปรายทั่วไป ตอนแรกฝ่ายค้านอยากได้ห้วงเวลาต้นเดือนกันยายน แต่ ครม.ให้เวลาวันที่ 18 กันยายน เพราะนายกรัฐมนตรีมีวาระงานที่วางไว้แล้ว และไม่แทรกคิวห้องประชุมจันทราในวันที่ 16-17 กันยายน เพราะ ส.ว.ใช้ห้องประชุมนี้เช่นกัน แม้ฝ่ายค้านขอสองวัน แต่ได้วันเดียวตามที่ ครม.เสนอ
สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า ขอให้ได้คำตอบจากนายกฯ ว่าทำไมไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในการถวายสัตย์ เมื่อเกิดเหตุแล้วจะแก้ไขเช่นใด เพราะสถานภาพรัฐบาลไม่สมบูรณ์ ตอนนี้ควรเคลียร์ให้จบให้เป็นบรรทัดฐาน รัฐบาลจะได้เดินหน้าทำงานได้ แม้ตอนนี้เรื่องนี้อยู่ในองค์กรอิสระ แต่ไม่กังวล ฝ่ายนิติบัญญัติก็ทำควบคู่กันได้เพราะในอดีตก็เคยทำกันมา แต่ต้องดำเนินในวุฒิภาวะ เวลาที่ให้มานั้นเป็นการเอาเปรียบของรัฐบาล เมื่อเป็นแบบนี้ฝ่ายค้านต้องปรับเนื้อหาและบุคคลที่จะอภิปราย
วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ประสานพรรคร่วมรัฐบาลให้อยู่ฟัง ยืนยันไม่มีประชุมลับในวันนั้น การที่ฝ่ายค้านบอกว่ารัฐบาลปฏิบัติไม่ครบ ควรรอการวินิจฉัยขององค์กรอิสระว่ารัฐบาลปฏิบัติได้คบถ้วนสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต้องรอผลการวินิจฉัย แม้ฝ่ายค้านจะสอบถามนายกฯในที่ประชุม แต่ไม่มีหน้าที่ตัดสิน นายกฯ ไปตอบฝ่ายค้านได้เพียงว่าเรื่องนี้รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
สิ่งที่วิปทั้งสองฝ่ายระบุนั้น ขออธิบายว่าการประชุมแบบเปิดเผยนั้น สามารถถ่ายทอดการประชุมได้ ประชาชนเข้ารับฟังได้ แต่หากมีการประชุมลับ ประธานในที่ประชุมจะสั่งให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่ประชุม ดังนั้นการประชุมลับในสภาผู้แทนฯ ก็ดำเนินการได้ในสองกรณี และเชื่อว่าวันนั้นอาจมีประชุมลับ
“บากบั่น” ตั้งประเด็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 161 นั้น กำหนดให้นายกฯ นำ ครม.ไปถวายสัตย์ปฏิญาณตน และฝ่ายค้านบอกว่านายกฯ ปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญในมาตรานี้ นายกฯ บอกว่าจะมาตอบเอง ดังนั้นการอภิปรายคราวนี้นายกฯ จะคุมอารมณ์ได้หรือไม่
“สมชาย” กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวไม่มีบทลงโทษ ส่วนที่ถามถึงนายกฯ นั้น นายกฯยอมรับว่าบางครั้งอาจหัวร้อน ดังนั้นครั้งนี้นายกฯ ควรคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ ล่าสุดนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนและประชาชนว่ามั่นใจตอบฝ่ายค้านได้ เชื่อว่านายกฯ จะบอกว่าเรื่องนี้อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ
แม้วันอภิปรายนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคุณสมบัติการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของรัฐหรือไม่ (หัวหน้าคสช.) ของนายกฯ หากวันนั้นมีการวินิจฉัยว่าหัวหน้าคสช.คือเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของรัฐ วันอภิปรายนั้นนายกฯ ไม่ต้องตอบฝ่ายค้านเพราะพ้นจากหน้าที่นายกฯ แล้ว
“วีระศักดิ์” มองว่า แบบนี้แสดงว่านายกฯ มั่นใจว่า เรื่องนี้จบแล้ว และในอดีตนั้นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมตินั้นมีหรือไม่
“สมชาย” กล่าวว่า ส่วนใหญ่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายค้านยื่นขออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ที่ผ่านมารัฐบาลจะขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อหารือกับฝ่ายค้านหลายครั้ง
“บากบั่น” สรุปว่า แสดงว่าตอนนี้ฝ่ายค้านหาจังหวะชกท้องรัฐบาลเก็บคะแนนไปก่อน
ส่วนความขัดแย้งของพรรคอนาคตใหม่กับพรรคเพื่อไทยนั้น
“บากบั่น” ตั้งคำถามว่า วันนี้สองแกนนำพรรคฝ่ายค้านคือเพื่อไทยกับอนาคตใหม่นั้นยังมีความขัดแย้งกันอยู่หรือไม่และด้วยเหตุผลใด
“สมชาย” กล่าวว่า สองประเด็นที่สองพรรคปริร้าวนั้นคือ แกนนำพรรคเพื่อไทยบอกว่าพรรคอนาคตใหม่จะโดนยุบพรรค รวมทั้ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.ที่เตือนว่า พรรคอนาคตใหม่ที่หวังไปปักธงเลือกตั้งท้องถิ่นให้ได้ และอย่าอ้างคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตสูงสุดใน กทม. ดังนั้นขอให้ไปคุยกับพรรคเพื่อไทยก่อน
ล่าสุดการคัดเลือกผู้สมัครนายกอบจ.นนทบุรี ของพรรคอนาคตใหม่ มีความขัดแย้งกันเองแล้ว
ที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นย่อมมีการแข่งขัน และตอนนี้เป็นปมขัดแย้งระหว่างพรรคอนาคตใหม่กับพรรคเพื่อไทย รวมทั้งยังขัดแย้งกันเองในพรรคอนาคตใหม่
“วีระศักดิ์” สรุปว่า ตอนนี้แกนนำพรรคอนาคตใหม่ลดเป้าแล้วจากตั้งไว้ห้าสิบจังหวัด ลดลงเหลือสิบห้าจังหวัดนั้น แสดงว่าแกนนำพรรคอนาคตใหม่รู้เรื่องรอยปริของสองพรรคแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง